27 ก.ค.นี้ ติดตั้งพรึ่บคานทางวิ่งโมโนเรล “สีชมพู-เหลือง” รฟม.ไล่หวดบีทีเอสสร้างให้เสร็จเปิดใช้ต.ค.64

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลัง รฟม.ให้กลุ่ม BSR (บีทีเอส-ซิโน-ไทยฯ-ราชบุรีโฮลดิ้งส์) ผู้ร่วมลงทุนก่อสร้างได้เริ่มงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. และสายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม. ซึ่งเป็นระบบโมโนเรลหรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยว 2 สายแรกของประเทศไทย และเป็นเส้นทางยกระดับที่มีระยะทางที่ยาวที่สุดที่ รฟม.เคยสร้างมา

ทั้ง 2 เส้นทางรวม 64.9 กม. เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2561 จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ถึงปัจจุบันมีความคืบหน้าด้วยดีแม้จะล่าช้าจากแผนไปบ้าง แต่จะเร่งผู้รับเหมาทั้ง 2 โครงการให้สร้างเสร็จตามสัญญาในเดือน ต.ค.2564 ส่วนระบบรถได้เริ่มออกแบบการผลิตแล้วเช่นกัน เป็นระบบรถของบอมบาดิเอร์ จะมาถึงประเทศไทยในเดือนก.ย.2563

“ช่วงแรกการก่อสร้างอาจจะมีปัญหาล่าช้า เพราะติดเรื่องส่งมอบพื้นที่เวนคืนที่ดิน รื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค ในส่วนของสายสีชมพูคืบหน้า 32.9% ล่าช้าจากแผน 5% ส่วนสีเหลืองคืบหน้า 33.47% อยู่ในแผนงาน เพราะปัญหาอุปสรรคจะน้อยกว่าสีชมพู”

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า ปัจจุบันทั้ง 2 เส้นทางได้ดำเนินการก่อสร้างจากระดับฐานราก เข้าสู่ขั้นตอนของทางยกระดับช่วงหัว-ท้ายโครงการ โดยได้มีการติดตั้ง Guideway Beam หรือคานทางวิ่งสำหรับโมโนเรลแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2562 สายสีชมพูเริ่มที่สถานีสามัคคีและสายสีเหลืองที่บริเวณศรีนครินทร์ และตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.นี้ไปจนถึงเดือน ม.ค.2564 จะทยอยติดตั้งไปยังจุดอื่น เช่น สถานีมีนบุรี เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยแต่ละสายจะติดตั้งคานทางวิ่งสายทางและคานทางวิ่งสถานี ประมาณ 3,000 ชิ้นต่อเส้นทาง

นายวิทูรย์ สลิลอำไพ ผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ผู้แทนจาก บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น กล่าวว่า คานทางวิ่งทางบริษัทเป็นผู้ผลิตเองที่โรงงานไทรน้อย มีพื้นที่ 250 ไร่ เพื่อรองรับรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 เส้นทางโดยเฉพาะ เป็นคานทางวิ่งแบบหล่อสำเร็จขนาดใหญ่ แต่ละชิ้นมีความยาว 30 เมตร น้ำหนักประมาณ 80 ตัน ซึ่งการติดตั้งแต่ละครั้งจะต้องมีการขนย้ายเพื่อไปประกอบในจุดที่ต้องการติดตั้งตามขั้นตอน อาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจร ได้ประสานตำรวจจราจรปิดเบี่ยงจราจรชั่วคราวในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. พร้อมจัดให้มีป้ายเตือน