“ศักดิ์สยาม-ถาวร-อธิรัฐ” ตบเท้ารายงานตัวที่ทำเนียบฯ ก่อนถวายสัตย์

ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ “ศักดิ์สยาม-ถาวร-อธิรัฐ” ตบเท้ารายงานตัวที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้าถวายสัตย์ ยันสานต่องานจากรัฐบาลเดิม

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บรรยากาศการเดินทางเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะ 3 รัฐมนตรีใหม่ของกระทรวงคมนาคม

ผู้ที่เดิทางมาเป็นคนแรก คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาถึงในเวลา 14.00 น. โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า “ทุกอย่างต้องรอการถวายสัตย์และฟังนโยบายจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้เรียบร้อยก่อน” และไม่ตอบคำถามเรื่องความคาดหวังจากประชาชนที่จะมารับไม้ต่อจาก 2 รัฐมนตรีคนเก่าคือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการและนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วย

ถัดมาเวลาประมาณ 14.20 น. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล

พร้อมคณะรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,
คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกรทรวงศึกษาธิการ และะนายสาธิต ปิตุเตชะ
รัฐมนตรีช่วยวาการกระทรวงสาธารณสุข

คนขวาสุด นายถาวร เสนเนียม

โดยนายถาวรกล่างเพียงว่า “ขอหารือกับนายศักดิ์สยามในฐานะรัฐมนตรีว่าการก่อน ส่วนเรื่องที่จะต้องผลักดันก็ไม่ขอตอบ ต้องไปถามจากนายศักดิ์สยามเอง

และในเวลา 15.00 น. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาถึงพร้อมด้วยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

โดยกล่าวว่า ไม่ตื่นเต้นที่มารับตำแหน่งนี้ เพราะคุณพ่อ-นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็ให้คำแนะนำมมาก่อนหน้านี้แล้ว และไม่กดดันที่มารับตำแหน่งต่อจากนายอาคมและนายไพรินทร์ อยากให้เวลาเป็นเครื่องพสูจน์

“โครงการที่กระทรวงคมนาคมวางแผนไว้ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงและมอเตอร์เวย์ จะสานต่อแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว”

ส่วนการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนกับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คงต้องรอให้คณะกรรมาธิการของสภาพิจารณาก่อนว่าจะมีผลอย่างไร

ส่วนการลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินซึ่งวางไว้ในเดือนก.ค.นี้ ก็ต้องนำหารือกับรัฐมนตรีทั้งสองท่านก่อน และยังไม่ได้แบ่างงานอะไรกันชัดเจน ส่วนตัวทำงานได้ทุกอย่าง คงจะะชัดเจนเมื่อได้เข้ากระทรวงวันที่ 18 ก.ค.นี้