วัน แบงค็อก เปิดมาสเตอร์แพลนมิกซ์ยูส 1.2 แสนล้าน พื้นที่ส่วนกลางล้ำเว่อร์ มีเซ็นเซอร์ 2.5 แสนตัว

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า โครงการวัน แบ็งคอก บนที่เช่าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ บนถนนวิทยุ 104 ไร่ มูลค่าลงทุน 1.2 แสนล้านบาท ในอนาคตเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดบริการจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

“เรายืนอยู่บนสถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์เคยเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นเซ็นเตอร์ของการมาเยือนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราต้องการสร้างให้เป็นชุมชนของคนหลากวัยหลายวัฒนธรรม ผมมั่นใจว่าเรามีความแข็งแกร่งด้านความคิดสร้างสรรค์ ฐานการเงินที่แข็งแกร่งระดับโลก”

นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก (One Bangkok) กล่าวว่า มาสเตอร์แพลนพัฒนาโครงการวัน แบงค็อก ออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด ประกอบด้วย 4 บริเวณหลัก พื้นที่รวม. 1.83 ล้านตารางเมตร

ได้แก่ บริเวณใจกลาง Civic Plaza พื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง 10,000 ตารางเมตร , พื้นที่รีเทลและไลฟ์สไตล์บริเวณส่วนล่างของตึก โดยออฟฟิศกับเรสซิเดนซ์อยู่ส่วนบนของตึก ที่จอดรถ 12,000 คัน

รายละเอียด ดังนี้ ออฟฟิศ 5 อาคาร พื้นที่รวมกัน 500,000 ตารางเมตร รองรับคนทำงาน 50,000 คน กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566-2569

พื้นที่รีเทล 4 โซน บนพื้นที่ 180,000 ตารางเมตร รวม 450 ร้านค้า

โรงแรม 5 แห่ง เจาะเซกเมนต์บูติคโอลเทล, บิสสิเนสโฮเทล และลักเซอรี่โฮเทลโดยเดอะริทช์ คาร์ลตัน 259 ห้อง เบ็ดเสร็จในโครงการมีห้องพักรวม 1,100 ห้อง

ทั้งนี้ อาคารสำนักงานและโรงแรมหรู จะเป็น Signature Tower แห่งใหม่ของประเทศไทย และสูงติด 1 ใน 10 ของอาเซียน ด้วยความสูง 430 เมตร

คอนโดมิเนียม 3 อาคาร โดยอาคารแรกเตรียมเปิดในต้นปี 2563 สร้างอยู่เหนือโรงแรมเดอะริทช์ คาร์ลตัน ห้องชุดแบบ 2-4 ห้องนอน จำนวน 110 ห้อง พื้นที่เริ่มต้น 130 ตารางเมตร ส่วนราคาต้องรอสรุปในช่วงใกล้เปิดตัวอีกครั้ง

มาสเตอร์แพลนยังรวมถึงพื้นที่ทั้งโครงการ 104 ไร่ ดีไซน์ให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง 50 ไร่ พื้นที่ส่วนกลางล้ำสมัย ได้แก่ ระบบทำควาเย็น ระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ระบบการจัดการน้ำและพลังงาน ควบคุมโดยศูนย์ข้อมู DCC-District Command Centre มีเซนเซอร์อัจฉริยะ 250,000 ตัว

สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้าง งานเสาเข็มเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ตามแผนคาดว่าเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2566 และก่อสร้างทั้งโครงการจบในปี 2569