แท็กซี่-วินมอไซค์ถก “ศักดิ์สยาม” ขึ้นค่าโดยสาร-แก้ปัญหาแกร็บ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2562 ได้ประชุมหารือเพื่อรับฟังข้อมูลจากกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่และรถจักรยานต์รับจ้าง (วินมอเตอร์ไซค์) ถึงข้อจำกัดในการประกอบอาชีพ รายได้และต้นทุนค่าใช้จ่าย เพื่อหาแนวทมงปลดล็อกปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบอาชีพรถรับจ้างสาธารณะ แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยให้ทางแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์รวมถึงกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กลับไปทำรายละเอียดและมาหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 8 ส.ค.นี้

“กลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ได้พูดถึงเรื่องข้อจำกัดของกฎหมาย ทำให้การประกอบอาชีพไม่สามารถสู้กับต้นทุนได้ จึงได้ขอให้พี่น้องแท็กซี่จัดตั้งตัวแทนที่ป็นพี่น้องแท็กซี่จริงๆ มาพูดคุยกันให้ชัดเจนว่าปัญหาที่เป็นข้อจำกัดมีเรื่องอะไรบ้าง ต้นทุนต่อวันเป็นอย่างไร และรายได้ที่ต้องการในแต่ละวันเป็นเท่าไร แล้วมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง”

ส่วนผู้ประกอบการวินมอเตอร์ไซค์นำเสนอถึงข้อจำกัดในลักษณะคล้ายคลึงกัน ในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่จะทำให้การให้บริการอยู่ในมาตรฐาน หรือมีทิศทางที่ต่อสู้หรือสามารถแช่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ก็ได้บอกกับพี่น้องวินมอเตอร์ไซค์ไปว่าขอให้ใช้แนวทางการดำเนินการแบบเดียวกับกลุ่มแท็กซี่ คือให้ไปคุยกันในกลุ่มว่าข้อจำกัดมีอะไรบ้าง ต้นทุนต่อวันเป็นยังไง รายได้ที่มีความตั้งใจจะได้คืออะไร และมาประชุมร่วมกันต่อไป

ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะหารือร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปทั้งในเรื่องของค่าโดยสารที่ผู้ประกอบการขอปรับ และปมปัญหาต่างๆ ขณะเดียวกันจะดูว่าในส่วนของกรมการขนส่งทางบกจะสามารถออกกฎกติกาอะไร หรือแก้ไขได้ขนาดไหน อย่างไรก็ดียืนยันว่าเรื่องนี้ต้องเดินไปด้วยกัน อย่างที่ผมบอกว่าเราทุกคนเป็นคนไทย ท่านนายกรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอยู่แล้ว”

แต่ผมได้ฝากเรื่องการให้บริการ ไม่ว่าแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ ให้ไปช่วยพูดคุยกันว่าต้องปรับปรุงการให้บริการ เพราะว่าคนที่ตัดสินในเรื่องนี้ ไม่ใช่รัฐมนตรีคมนาคม ไม่ใช่กรมการขนส่งทางบก หรือใครทั้งสิ้น แต่เป็นพี่น้องประชาชนผู้รับบริการ ถ้าเราบริการได้ดี และมีราคาที่เป็นธรรม ลูกค้าจะมาใช้บริการ ทั้งนี้ขอให้แต่ละกลุ่มไปหาวิธีทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาของกลุ่มตัวเองแล้วมาหารือร่วมกันต่อไป

“กรณีที่ผู้ประกอบการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หากสามารถพิสูจน์ต้นทุนได้จริง แล้วจำเป็นต้องปรับก็ให้เป็นไปตามนั้น แต่ต้องให้เป็นต้นทุนที่ไม่ได้คิดเอาเอง คิดว่าวันที่ 8 ส.ค. นี้น่าจะสรุปได้จบในทุกประเด็น เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่สะสมมาพอสมควร ซึ่งหากมีข้อมูลที่ครอบคลุม ชัดเจน และถูกต้อง จะสามารถเดินหน้าไปได้หมด เพราะกติกา กฎหมาย เป็นเรื่องที่คนเขียนขึ้นมา และเขียนเพื่อให้คนอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นข้อจำกัดก็ให้ทลายทิ้งไปซะ

ขณะที่นโยบายของพรรคภูมิใจไทยจะผลักดัน Grab ให้ถูกกฎหมาย จากที่ได้หารือมาทางผู้ประกอบการเองก็เห็นด้วย และคิดว่าอะไรก็ตามที่จะมาช่วยให้สามารถส่งเสริมให้การบริการดีขึ้น สามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายลงได้ก็เห็นด้วย ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ได้ย้ำกรมการขนส่งทางบกไปดูอย่างละเอียด โดยให้หลักการไปว่าบริษัทจะทำเรื่องพวกนี้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และต้องทำอะไรที่สร้างให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทย ก็ได้สั่งการให้ไปดูด้วยว่าในการบริการผิดกฎหมายหรือไม่

“ถ้าผิดกฎหมายก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2559 กรณีที่มีผู้ที่ก่อหรือสนับสนุนผู้อื่นทำผิดกฎหมาย ให้กรมการขนส่งทางบกไปตามคดีนี้ต่อว่าผลเป็นอย่างไร และนำมาหารือกันต่อไป เพราะกฎหมายมีไว้กำกับดูแลทุกคน ไม่มีใครได้รับยกเว้น ส่วนจะระงับการให้บริการ ก็ต้องดูว่าเรามีอำนาจตรงนั้นไหม เราไม่มีอำนาจ ก็ต้องดำเนินการไปตามหลักกฎหมาย จะไปเอาแต่ความคิดเราว่าจะต้องสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้ หากสั่งให้หยุดเดี๋ยวนี้แล้วเขาจะหยุดไหม ก็คงไม่หยุด โดยจะได้ข้อสรุปใน 3 เดือนนี้ แต่อาจจะต้องเร่งให้เร็วกว่านั้น” นายศักดิ์สยามกล่าว