ชายแดน “ไทย-ลาว” คึกรถไฟเปิดเดินรถขนส่งสินค้า”หนองคาย-ท่านาแร้ง”

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เวลา 15.30 น. ณ สถานีหนองคาย นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานพิธีเปิดเดินขบวนรถไฟขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 จากสถานีหนองคาย ถึงสถานีท่านาแล้ง ระยะทาง 3.5กม.

นายวรวุฒิ เปิดเผยว่า การเปิดให้บริการขบวนรถไฟขนส่งสินค้าผ่านแดนระหว่างไทยและสปป.ลาว ผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 ถือเป็นความสำเร็จในการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งสินค้าระบบรางของทั้ง 2 ประเทศเข้าด้วยกัน และสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) และเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่ง

การเปิดให้บริการจะช่วยอำนวยความสะดวกต่อการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ของประเทศเป็นอย่างมาก สามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางรถไฟจากท่าเรือแหลมฉบัง ขนส่งมาที่สถานีหนองคาย และต่อขยายไปถึงที่ศูนย์กองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ (Container Yard) ที่ท่านาแล้ง สปป.ลาว ได้โดยตรง รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี

“ก่อนหน้านี้เปิดเดินรถเส้นทางหนองคาย-ท่านาแล้ง ได้ให้บริการเฉพาะการขนส่งผู้โดยสารเท่านั้น แต่นับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้จะมีการปรับเปลี่ยนขบวนรถให้เป็นขบวนรถร่วมให้ขนส่งได้ทั้งผู้โดยสารและสินค้า โดยพ่วงรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าร่วมกับขบวนรถโดยสารเข้าไปด้วย “

จะเปิดให้บริการวันละ 4 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถรวมที่ 481 ออกหนองคาย 07.30 น. ถึงท่านาแล้ง 07.45 น. ขบวนรถรวมที่ 482 ออกท่านาแล้ง 10.00 น. ถึงหนองคาย 10.15 น. ขบวนรถรวมที่ 483 ออกหนองคาย 14.45 น. ถึงท่านาแล้ง 15.00 น. และขบวนรถรวมที่ 484 ออกท่านาแล้ง 17.30 น. ถึงหนองคาย 17.45 น.”

นายวรวุฒิกล่าวต่อว่า การรถไฟฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากจังหวัดหนองคาย กรมศุลกากร กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝั่งไทย และสปป.ลาว ซึ่งหวังว่า จะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง นำมาซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การบริการของภาคคมนาคมขนส่ง (Transport Services) ของกระทรวงคมนาคม ในการส่งเสริมการขนส่งสินค้าทั้งภายใน และระหว่างประเทศผ่านระบบราง เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้มีความปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป