Qcon ย้ำแบรนด์อิฐมวลเบา ป้อน “คิวโซลูชั่น” มัดใจลูกค้า

อิฐมวลเบา “Q-CON” เล่นใหญ่ย้ำผู้นำตลาดในประเทศ การันตีคุณภาพ-ประหยัดพลังงานจากรางวัลบล็อกประหยัดไฟเบอร์ 5 ส่ง Q Solution พัฒนา Q Panel ผนังมวลเบาติดตั้งไว แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ลดเวลาการก่อสร้าง

นายกิตติ สุนทรมโนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบาภายใต้แบรนด์ Q-CON ในกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เครือเอสซีจี เปิดเผยว่า ปี 2562 คิวคอนครบรอบก่อตั้ง 25 ปี บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศเป็นอันดับ 1 ปัจจุบันนำเสนอสินค้าครบทุกชั้นคุณภาพทั้ง G2, G4, G6 และผลิตภัณฑ์มวลเบาเสริมเหล็ก เช่น คานทับหลังสำเร็จรูป แผ่นเคาน์เตอร์มวลเบา และแผ่นพื้นสำเร็จรูป

บริษัทจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ อาทิ จัดดิสเพลย์ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ, จัดโปรแกรมส่งเสริมการขายสำหรับผู้แทนจำหน่าย, จัดกิจกรรมสัมมนานวัตกรรมคอนกรีตมวลเบาแก่สถาปนิก วิศวกร ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมา และกิจกรรมภายใต้โครงการ Q-CON CSR 25 ปี เป็นต้น

แผนธุรกิจครึ่งปีหลัง นำเสนอ “Q Solution” ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น จุดเด่นแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และต้องการความรวดเร็วในการก่อสร้าง ล่าสุดเปิดตัว Q Panel ระบบผนังกันความร้อนครบวงจร ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา ใช้แรงงานน้อย 2-3 คน สามารถติดตั้งได้ 40 ตร.ม./วัน มีระบบ Q Network เครือข่ายทีมช่างประสบการณ์ให้บริการติดตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งมีผนังเข้ามุม ผนังรอยท่อช่วยให้ลูกค้าทำงานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คิวโซลูชั่นอื่น ๆ อาทิ Q Kitchen ครัวปูนทันสมัยและมีโครงสร้างเสริมเหล็กแข็งแรงได้มาตรฐาน พร้อมบริการติดตั้งครบวงจร, Q Stair ระบบบันไดช่วยลดต้นทุน ลดเวลาทำงาน, Q Sound Barrier ระบบผนังกันเสียงช่วยป้องกันเสียงดังจากรอบข้าง เหมาะสำหรับติดตั้งทั้งผนังกันเสียงริมทางหลวงแผ่นดิน รั้วหมู่บ้าน รั้วโรงงาน และรั้วคอนโดฯ

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2562 มียอดขาย 1,032.9 ล้านบาท เติบโต 12% เทียบกับครึ่งปีแรก 2561 มีกำไร 86.90 ล้านบาท เติบโต 393% โดยผลการดำเนินงานมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลยุทธ์บริษัทพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ลูกค้า โดยผลักดันผลิตภัณฑ์Q Panel ป้อนตลาดในประเทศผ่านเครือข่ายดีลเลอร์ 1,000 แห่ง ขณะเดียวกันมีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย สปป.ลาว กัมพูชา มัลดีฟส์ เป็นต้น


ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุด 20.8 ล้านตารางเมตร จาก 5 โรงงาน รองรับความต้องการใช้ทั่วประเทศ โดยตลาดที่มีอัตราเติบโตสูงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล, ภาคตะวันออก และภาคอีสาน