สุดบรรเจิด “ศักดิ์สยาม” บี้ลดค่าผ่านทางแก้รถติดทางด่วน-มอเตอร์เวย์ สั่งนำคน-AIช่วยขายคูปอง

สุดบรรเจิด “ศักดิ์สยาม” บี้ลดค่าผ่านทางแก้รถติดทางด่วน-มอเตอร์เวย์ สั่งนำคนAIช่วยขายคูปอง รายงาน ครม. 27 ส.ค.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2562

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามงาน และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกรมทางหลวง และการทางพิเศษฯตามที่ได้มอบนโยบายไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 ประกอบด้วย

1. การศึกษา และจัดทำแผนแก้ปัญหาด่านเก็บเงินทางด่วนและมอเตอร์เวย์ให้รถสามารถผ่านด่านเก็บเงินได้อย่างรวดเร็ว ลดความแออัดของรถที่หน้าด่าน ซึ่งได้มอบแนวทางการดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

ระยะเร่งด่วน ช่อง Easy Pass และ M Pass มีแนวทางให้ดำเนินการยกไม้กั้นในช่วงเวลาเร่งด่วน และจัดหาเจ้าหน้าที่ประจำช่องทางเฝ้าระวัง และประสานกับตำรวจเพื่อป้องกันปัญหารถฝ่าด่าน

ส่วนช่องเงินสด จัดจ้างบุคคลภายนอกเช่น ลูกๆ นักเรียน นักศึกษา ประมาณ 10 คน เพื่อจำหน่ายคูปองเงินสดรถที่รอต่อคิวที่ด่านเก็บเงินในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า เวลา 06.00-09.00 น. และช่วง 15.00-19.00 น. ช่องละ 10 คัน เพราะปัจจุบันเข้าได้ช่องละ 1 คัน แต่ให้มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยด้วย ให้กรมทางหลวงและ กทพ.ดำเนินการ แต่ถ้าทั้ง 2 หน่วยมีบุคลากรพร้อมอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องนำลูกๆ มาเทรน

“ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ผผมจะไปตรวจงานที่ด่านพระราม 9 และด่านทับช้างไปดูระบบที่ทำอยู่ในปัจจุบัน”

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในระยะยาว จะใช้ AI ให้นำกล้องวงจรปิดมาใช้และบูรณาการเชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก ในการจับทะเบียนรถที่วิ่งผ่านด่าน เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยอย่างยั่งยืน จะมี 2 ระบบ ถ้าเป็นบัตรเดบิตจะมีค่าผ่านทางที่น้อยกว่าบัตรเครดิต เพราะมีส่วนลดกว่าบัตรเครดิต

“ทั้งนี้ขอย้ำว่าการนำ AI มาใช้จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและลงทุนไม่มาก ให้ไปดูว่าจะบริหารจัดการยังไงไม่มีเออร์รี่แน่นอน จะเปิด PPP หรืออย่างไรจะได้ลดต้นทุนได้”

2. แนวทางการปรับลดค่าผ่านทางพิเศษทุกประเภท ทางด่วน มอเตอร์เวย์ โทลล์เวย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน โดยการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้น ต้องไม่นำภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาอุดหนุน

หากโครงการใดมีการร่วมทุนกับเอกชนให้ไปพิจารณาศึกษารายได้ในอนาคต ว่ามีวิธีนำรายได้ในอนาคตมาใช้ได้อย่างไร และเมื่อสิ้นสุดสัญญาจะทำอย่างไรเพื่อชดเชยการสูญเสีย โดยต้องดูตัวเลขให้ชัดเจน ต้องสามารถอธิบาย ตอบคำถาม และตรวจสอบได้

นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำนโยบายเรื่องความปลอดภัย ต้องมีการซักซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และเฝ้าระวังการเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของการทำสัญญากับเอกชน ขอให้พิจารณาสัญญาอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตอีกต่อไป

นอกจากนี้นายศักดิ์สยามยังกล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่าง กทพ. และ บมจ.มางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ว่าได้ให้นโยบาย กทพ.ไปว่าการต่อสู้คดีไม่ปฎิบัติตามสัญญาก็ขอให้ข้อมูลต้องครบถ้วนสมบูรณ์ อย่าไปเจรจาหรือต่อสู้คดีโดยไม่นำข้อมูลทั้งหมดมาแสดง ก็ได้เตือนไปว่าวันนี้โลกมันแคบ

และวันที่ 27 ส.ค.นี้ ให้คณะทำงานที่นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานจะรายงานผลการตรวจสอบข้อมูลและแนวทางการแก้ปัญหายุติข้อพิพาท ที่ให้ไปดำเนินการหาแนวทางมา

“ทุกคนที่พูดไปว่ารัฐต่อสู้คดีมีแต่จะแพ้ เขาก็มีเหตุผลสนับสนุนเขา ผมก็พูดไปในเรื่องของผมว่าดูให้ดีที่สุด ถ้าข้อมูลสมบูรณ์ครบถ้วนเป็นยังไงมันก็เป็นแบบนั้นแหละ ถ้าไปแล้วข้อมูลไม่สมบูรณ์แล้วไปแพ้สุดท้ายเขาก็พลิกคดีได้เหมือนเดิม หลักก็คือให้ศึกษาทีโออาร์ สัญญา การไม่ปฎิบัติตามสัญญา การเข้า ครม.ครบไม่ครบ เป็นหลักการปกติ” นายศักดิ์สยามกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า นายศักดิ์สยามเตรียมจะนำเรื่องการแก้ปัญหารถติดหน้าด่านทางด่วนและมอเตอร์เวย์เสนอให้ที่ประชุม ครม. วันที่ 27 ส.ค.นี้รับทราบ