ซีพีแลนด์ลุยโรงแรม 4 พันล้าน อัพเกรด 5 ดาว”อุดร-ขอนแก่น-สงขลา”

“ซี.พี.แลนด์” ทุ่ม 4,000 ล้าน ตั้งเป้าโตดับเบิล ผุดโรงแรม 14 แห่งทั่วประเทศ วางขอนแก่น-อุดรฯ-สงขลา พื้นที่ศักยภาพสร้าง 5 ดาว พร้อมซุ่มศึกษาโรงแรมใกล้นิคมใหม่มาบตาพุด

นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนระยะยาว 5 ปี (2563-2567) บริษัทเตรียมลงทุน 4,000 ล้านบาท เพื่อขยายโรงแรม จากปัจจุบัน 11 โรงแรม 2,000 ห้อง เพิ่มเป็น 2 เท่า หรือไม่ต่ำกว่า 24-25 โรงแรม รวม 4,000 ห้อง

โดยเน้นกระจายการลงทุนพื้นที่มีศักยภาพในระดับภูมิภาค อาทิ เมืองท่องเที่ยว เมืองการค้าชายแดน และแหล่งอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น รวมถึงลงทุนเจาะนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ที่เป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น มีพฤติกรรมท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ แต่ชอบความง่าย สะดวกสบาย และสะอาด

สำหรับแผนธุรกิจประกอบด้วยเตรียมเปิดบริการโรงแรมฟอร์จูน ซี วิว จ.ระยอง ไตรมาส 1/63 กับโรงแรมใน จ.สมุทรสาครที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ความคืบหน้าเริ่มลงเสาเข็มในไซต์ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว แต่ยังชะลอโครงการเล็กน้อยเพื่อดูภาวะเศรษฐกิจภาพรวม

นอกจากนั้นมีโรงแรม 5 ดาวอย่างน้อย 3 แห่งซึ่งบริษัทบริหารเอง ได้แก่ โรงแรมในหาดใหญ่ สงขลา, ขอนแก่น, อุดรธานี แต่ละแห่งมีจำนวน 300 ห้อง เฉลี่ยลงทุนต่อห้องโรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ ห้องละ 15 ล้านบาท ทำเลต่างจังหวัดห้องละ 5 ล้านบาท

“ทำเลอื่น ๆ ซี.พี.แลนด์สนใจลงทุนโรงแรมทั้งในสุราษฎร์ฯ นครศรีธรรมราช โดยคละเซ็กเมนต์ให้ครอบคลุมกำลังซื้อผู้เข้าพักทุกกลุ่ม”

ก่อนหน้านี้ในปี 2561 ซี.พี.แลนด์ซื้อกิจการและปรับปรุงโรงแรม 4-5 แห่ง โดยเปิดบริการแล้วในปีนี้ 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์ และโรงแรมฟอร์จูน พิษณุโลก ทำให้มีโรงแรมจำนวน 11 โรงแรม ใน 9 จังหวัด จำนวน 2,000 ห้อง เบื้องต้นโรงแรมในเครือฟอร์จูนแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทซิตี้โฮเทล ระดับ 4-5 ดาว ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 แห่ง อาทิ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพ โรงแรมฟอร์จูน ราชพฤกษ์ นครราชสีมา ประเภทรีสอร์ตโฮเทล ระดับ 3-4 ดาว จำนวน 3 แห่ง อาทิ โรงแรมฟอร์จูน เชียงของ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม และประเภทไลฟ์สไตล์และคอนวีเนี่ยนโฮเทล ระดับ 2-3 ดาว จำนวน 5 แห่ง อาทิ โรงแรมฟอร์จูน ดี เขาใหญ่ โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) ทำรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท โดยรายได้กว่า 45% เป็นรายได้ที่มาจากการให้บริการของโรงแรมในเครือ ส่วนอีก 55% ที่เหลือเป็นรายได้จากการให้เช่าอาคารสำนักงานและธุรกิจอื่น ๆ

นอกจากธุรกิจโรงแรมแล้ว บริษัทมีการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมร่วมกับพันธมิตรประเทศจีน บนที่ดิน 3,000 ไร่ ในพื้นที่มาบตาพุด ระยอง ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ใช้เงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้ว 2,000 ล้านบาท คาดว่าจนจบโครงการต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท กำหนดเริ่มก่อสร้างภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าแล้วเสร็จปี 2565


โดยมีแผนก่อสร้างโรงแรม 200 ห้อง ในบริเวณใกล้นิคม เปิดให้เช่าพักระยะยาวสัดส่วน 1 ใน 3 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม วางแผนเริ่มก่อสร้างปี 2564