อัพเดต! น้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน ถนนสายไหนผ่านได้-ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมทางหลวงได้ทำการสรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุล ประจำวันที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 12.00 น. โดยทางหลวงมีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ ยโสธร, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, พิจิตร, สุโขทัย, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร และยโสธร จำนวน 29 สายทาง (47 แห่ง) ผ่านไม่ได้ 9 แห่ง มีรายละเอียด ดังนี้

จังหวัดยโสธร

– ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เสลภูมิ – ยโสธร ช่วงกม.ที่152 – 155 พื้นที่ อ.เสลภูมิ ระดับน้ำสูง 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทางเลี่ยง เลี้ยวขวาสามแยก ทช.รอ.2027 ถึง อ.อาจสามารถ เลี้ยวซ้าย ทล.2043 เลี้ยวซ้ายแยกโนนชัยศรีเข้า ทล.202 เพื่อไป จ.ยโสธร

– ทางหลวงหมายเลข 2043 ตอน ยางเฌอ ช่วงกม.ที่ 29-31 น้ำท่วมสูงระดับน้ำสูง 35 ซม. อยู่ระหว่างจัดทำทางเลี่ยง จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่

– ทางหลวงหมายเลข 2043 ยางเฌอ ช่วงกม.ที่ 41-43 น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 65 ซม. ทางเลี่ยง อยู่ระหว่างจัดทำทางเลี่ยง จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจราจรในพื้นที่

จังหวัดอุบลราชธานี

– ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน บ้านสวน – เขื่องใน ช่วงกม.ที่ 223 – 226 พื้นที่ อ.เขื่องใน น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 140 ซม. ทางเลี่ยงใช้ จาก ทล.23 ที่ กม.202 เลี้ยวขวา เข้า ทล.2083 ไป อ.มหาชนะชัย เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.2351 ไป อ.ยางชุมน้อย เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.2086 บรรจบ ทล.226 เข้าสู่ จ.อุบลราชธานี

– ทางหลวงหมายเลข 2049 ตอน ม่วงสามสิบ –พนา ช่วงกม. ที่ 14-16 น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทางเลี่ยง ทล.212 ไป จ.อำนาจเจริญแล้วใช้ ทล.2134 (ลืออำนาจ-พนา) แทน

– ทางหลวงหมายเลข 2050 ตอน อุบลราชธานี-ตระการพืชผล ช่วงกม.ที่ 31+575 คอสะพานโดนน้ำกัดเซาะ ทางเลี่ยง ไปตระการฯ ที่บริเวณแยกบ้านแต่ใหม่ ที่ กม.14+450(2050) ไปตามเส้นทางหลวงชนบทหมายเลข 4041 เพื่อที่จะออกไปพื้นที่ตำบลกุศกร ทางหลวงหมายเลข 2134 ตอน ตระการฯ – โขงเจียม

– ทางหลวงหมายเลข 2383 ตอน ม่วงสามสิบ – ดู่น้อย ช่วงกม.ที่ 14 – 15 ระดับน้ำสูง 80 ซม. ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23 กม.246 เลี้ยวซ้ายเข้า ทางหลวงหมายเลข 2413 (บ้านแอ้ – บ้านขอน) เข้าทางหลวงหมายเลข 2383 กม.2 เพื่อไป อ.ม่วงสามสิบ

– ทางหลวงหมายเลข 2406 ตอน บ้านโคก – ธาตุกลาง ช่วงกม.ที่ 5 – 8 ระดับน้ำสูง 30 – 50 ซม. ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23 ที่กม. 202 เลี้ยวขวาเข้า 2083 ไป อ.มหาชนะชัย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2351 ไป อ.ยางชุมน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2086 บรรจบทางหลวงหมายเลข 226 เข้าสู่ จ.อุบลราชธานีต่อไป อ.เขื่องใน

– ทางหลวงหมายเลข 2210 ตอน ขมิ้น – น้ำปลีก ช่วงกม.ที่ 21 – 22 น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 120 ซม. ทางเลี่ยงจากแยกน้ำปลีก ใช้ ทล.202 ไปตัวเมืองอำเภออำนาจเจริญ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 212 ลืออำนาจ ไปแยกบ้านหลักชัย เลี้ยวขวาเข้าหัวตะพาน ทล.2210

ทั้งนี้ กรมทางหลวง ได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ด้านกรมทางหลวงชนบท เผยสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด สัญจรผ่านได้ 99 สายทาง โดยสำนักบำรุงทาง รายงานว่า ขณะนี้มีถนนทางหลวงชนบทที่ประสบอุทกภัย จำนวน 21 จังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบ จำนวน 134 สายทาง สามารถสัญจรผ่านได้ 99 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 35 สายทาง รายละเอียด ดังนี้

– จังหวัดเชียงใหม่ 3 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้)
– จังหวัดพิจิตร 8 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดพิษณุโลก 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดแม่ฮ่องสอน 8 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดเพชรบูรณ์ 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดกำแพงเพชร 1 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดสุโขทัย 1 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดนครสวรรค์ 1 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดขอนแก่น 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดร้อยเอ็ด 20 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 15 สายทาง , ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 5 สายทาง )
– จังหวัดมหาสารคาม 9 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 7 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง )
– จังหวัดอุบลราชธานี 14 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 4 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 10 สายทาง )
– จังหวัดอำนาจเจริญ 8 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 2 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 6 สายทาง )
– จังหวัดยโสธร 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 4 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 6 สายทาง )
– จังหวัดมุกดาหาร 10 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ 4 สายทาง, ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 6 สายทาง )
– จังหวัดกาฬสินธุ์ 16 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดนครพนม 4 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดสกลนคร 4 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดสระแก้ว 7 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดระนอง 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )
– จังหวัดพังงา 2 สายทาง (สามารถสัญจรผ่านได้ )

ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง พร้อมนำเครื่องจักรเข้าดำเนินการจัดการสิ่งกีดขวางบนถนนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่ออำนวยความสะดวกเรียบร้อยแล้ว และในกรณีถนนขาดเมื่อน้ำลดจะรีบดำเนินการเชื่อมทางทันที เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้โดยเร็วที่สุดต่อไป