“เซ็นทรัล วิลเลจ” ไม่จบง่าย “นิตินัย ศิริสมรรถการ” สั่งฝ่ายกฎหมาย อุทธรณ์ ภายใน 30 วัน กพท.ร่อนหนังสือถึง “ซีพีเอ็น” สั่งแจงอีเวนต์ใน 60 วัน หวั่นรบกวนการบิน เผยถนน 370 ยังไม่ได้ข้อสรุปใครจะเป็นเจ้าภาพดูแล สัปดาหน้าประชุมอีกรอบ
ที่ผ่านมา แม้ศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. รื้อถอนสิ่งกีดขวางออกจากบริเวณด้านหน้าทางเข้าออกโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ และทำให้จะสามารถเปิดให้บริการได้ตามกำหนด ในวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าถึงวันนี้ ข้อพิพาทระหว่างเซ็นทรัลและ ทอท.ในโครงการนี้จะยังไม่จบลงง่าย ๆ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดคำสั่งศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักเซอรี่ เอาต์เลต เพื่อจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลภายใน 30 วันนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่เซ็นทรัลฟ้องเรียกค่าเสียหาย 150 ล้านบาท ก็จะต้องมีการต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ตอนนี้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องลงมาดู ทั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยหรือ กพท. ดู พ.ร.บ.ทางเดินอากาศ ดูความปลอดภัยด้านการบิน กรมโยธาธิการและผังเมือง ดูผังเมืองและกฎหมายควบคุมอาการ พ้นหน้าที่ ทอท.แล้ว หลังไม่มีอำนาจดูแลที่ราชพัสดุที่กรมทางหลวงใช้สร้างถนน 370 อย่างที่กรมธนารักษ์มอบอำนาจให้ ทอท.ดูแลเมื่อเดือนมกราคม 2562
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทอท.ได้ส่งหนังสือแจ้งเรื่องการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับความปลอดภัยทางการบินจากการเปิดให้บริการโครงการเซ็นทรัล วิลเลจมาให้ กพท.พิจารณาแล้ว จะให้เซ็นทรัลพัฒนาไปสำรวจว่ามีกิจกรรมส่งเสริมการขายอะไรบ้างที่จะดำเนินการ และเสี่ยงทำให้เกิดอุปสรรคต่อความปลอดภัยทางการบิน เช่น งานอีเวนต์ที่ใช้แสง สี เสียง อาจจะกระทบต่อนักบิน จัดเทศกาลอาหาร ลานเบียร์ ที่จะดึงดูดนกเข้ามารบกวนทัศนวิสัยทางการบิน เป็นต้น โดย กทพ.ได้ส่งหนังสือแจ้งเซ็นทรัลไปเมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา และให้เวลาตรวจสอบและตอบกลับภายใน 60 วัน หากเซ็นทรัล วิลเลจจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ ก็จะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เข้ามาช่วยตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายจุฬากล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะ ICAO คงไม่ตรวจเซ็นทรัล วิลเลจเพียงจุดเดียว
ที่ผ่านมา กพท.เคยตรวจสอบและแจ้งไปแล้วว่าไม่มีผลต่อความปลอดภัยทางการบิน อยู่ในระยะที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน สิ่งที่ ICAO จะดูเป็นมาตรฐานโดยรวมของความปลอดภัยการบินมากกว่า เช่น การบริการภายในสนามบิน ความรวดเร็วของด่านตรวจคนเข้าเมือง
“การตรวจสอบของ กพท. จะทำให้เกินมาตรฐานที่ ICAO กำหนดไว้ตลอด อย่างเซ็นทรัล วิลเลจเราได้ตรวจสอบพร้อมอาคารอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในรัศมี 16 กม. นับจากหัวท้ายของรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าไม่มีผลต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน ส่วนเรื่องแสง เสียง ควัน หรือนก ตั้งแต่เปิดวันที่ 31 ส.ค. จนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหาอะไร คาดว่าปัญหาจะเกิดขึ้นช่วงที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากกว่า ก็ให้เซ็นทรัลไปลิสต์รายการแจงมา” นายจุฬากล่าว
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สอบถามเรื่องที่ กพท. ให้ชี้แจงรายละเอียดการจัดกิจกรรม ไปยังบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆ ว่า บริษัทพร้อมจะปฎิบัติตามข้อบังคับของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างเคร่งครัด
นายอภิชาติ จันทรทรัพย์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ประชุมคณะทำงานด้านการแก้ปัญหาข้อพิพาททางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 สายทางเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้ข้อสรุป
ในเบื้องต้นว่า ให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์ที่ดินราชพัสดุแต่เดิมจากกรมธนารักษ์ ตัดสินใจว่าจะยังเป็นผู้ใช้ประโยชน์ถนนเส้นดังกล่าวอยู่หรือไม่ หากจะไม่เป็นผู้ใช้ประโยชน์แล้วก็ทำเรื่องโอนถนนเส้นนี้กลับคืนให้กรมธนารักษ์ แต่หากตัดสินใจที่จะเป็นผู้ใช้ประโยชน์ถนนเส้นดังกล่าวต่อก็โอนกลับให้กรมธนารักษ์ จากนั้นกรมทางหลวงจะขอรับโอนถนนจากกรมธนารักษ์เพื่อเป็นผู้ดูแลรักษาต่อไป
ภายในสัปดาห์หน้าจะประชุมติดตามความก้าวหน้า คาดว่าภายในปีนี้จะสรุปได้ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพในการดูแลถนนเส้นนี้ จากนั้นให้ เซ็นทรัลวิลเลจ มาขออนุญาตต่อไป จากปัจจุบันอนุญาตให้เป็นการชั่วคราว ระหว่างรอสรุปว่าใครต้องผู้เป็นผู้ดูแล ถนน 370
“เดินถนนเส้นดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินซึ่งกระทรวงการคลังเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเวนคืน และมอบให้กรมท่าอากาศยานเป็นผู้เวนคืนและเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ต่อมาเมื่อรัฐบาลมีแผนก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ดินดังกล่าวถูกขึ้นเป็นที่ดินราชพัสดุ มีกรมธนารักษ์เป็นเจ้าของ แต่ยังให้กรมท่าอากาศยานเป็นผู้ใช้ประโยชน์อยู่ ต่อมามีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2543-2544 ให้กรมทางหลวงเป็นผู้ก่อสร้างและบำรุงรักษาถนนเชื่อมสนามบินด้านใต้ โดยถนนเส้นนี้มีความยาว 2.7 กม. ขนาด 4 เลน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2547 และกรมทางหลวงเป็นผู้บำรุงดูแลเรื่อยมา” นายอภิชาติกล่าว