“ภูมิใจไทย” ล้างบาง “บิ๊กคมนาคม” ลอตสองตั้ง 4 อธิบดี-สรรหาผู้ว่ารถไฟ

ไม่เหนือความคาดหมาย โผแต่งตั้งโยกย้าย 7 เก้าอี้บิ๊กคมนาคม กระทรวงเศรษฐกิจเกรดพรีเมี่ยม มีเม็ดเงินลงทุนผ่านมือนับล้านล้าน

7 รายชื่อผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ดูโฉมหน้าเป็นไปตามคาดการณ์ ตั้งแต่มีชื่อ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” พรรคภูมิใจไทย มาคุม

เมื่อการเมืองผลัดใบ เปลี่ยนขั้ว ก็ต้องหาคนที่แค่มองตาก็รู้ใจไว้รันงาน ด้วยสไตล์ “ศักดิ์สยาม” ต้องการคนที่รุก-รับ-เร็ว จึงต้องการคนปั้นผลงานให้ประจักษ์โดยเร็ว โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง และสางเผือกร้อนต่าง ๆ

จึงไม่แปลกจะโยก “พีระพล ถาวรสุภเจริญ” ที่ทำงานสไตล์นักการบัญชี จากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ที่เพิ่งนั่งได้ 1 ปี กลับไปเป็นรองปลัดกระทรวงตามเดิม

โปรโมตลูกหม้อเก่า “จิรุตม์ วิศาลจิตร” คนคุ้นเคย จากรองปลัดนั่งอธิบดีกรมการขนส่งฯแทน เมื่อมีโปรเจ็กต์ที่ต้องสะสางเป็นหางว่าวทั้งแกร็บถูกกฎหมาย จัดระเบียบรถตู้ วินมอเตอร์ไซค์ ปรับเส้นทางเดินรถ

ขณะที่ “อานนท์ เหลืองบริบูรณ์” เด็กปั้น “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ถูกโยกจากอธิบดีกรมทางหลวง เข้ากระทรวง นั่งเป็นรองปลัด

ตั้ง “สราวุธ ทรงศิวิไล” ที่ว่ากันว่าแนบแน่นกับคนบุรีรัมย์ พาสชั้นจากอธิบดีกรมการขนส่งทางราง กรมน้องใหม่ ที่นั่งได้เพียง 3 เดือน เป็นอธิบดีกรมทางหลวง ที่มีงบประมาณปีละกว่า 1 แสนล้านบาท สมใจ หลังผิดหวังมา 2 ครั้ง 2 ครา

พลันที่ตระกูลชิดชอบนั่งเป็นราชรถ 1 ชื่อ “สราวุธ” ก็โดดเด่น กลบรัศมี “อานนท์” ในทันที ว่ากันว่าอธิบดีไฮเวย์ป้ายแดง ไม่ต้องพูดเยอะ แค่มองตาก็รู้ใจไปถึงไหนต่อไหน ดังนั้น นโยบายซิ่งเลนขวา 120 กม./ชม. คงไม่ใช่ความฝันของ “ศักดิ์สยาม” อีกต่อไป

กรมเจ้าท่าถึงจะเป็นกรมเล็ก แต่อธิบดีคนใหม่ “วิทยา ยาม่วง” มาแทน “สมศักดิ์ ห่มม่วง” จะเกษียณ 30 ก.ย.นี้ แบ็กอัพไม่ธรรมดา เรียน วปอ.รุ่นเดียวกับ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล”

แต่ก็ถือว่าไม่ผิดฝาผิดตัว เพราะเป็นลูกหม้อเก่า ที่อยู่นอกโผ มี “สมัย โชติสกุล” อาจจะเป็นเพราะผลงานไม่ค่อยเร้าใจ จึงทำให้ถูกโยกจากรองปลัด เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง รอเกษียณ ก.ย. 2563

และ “อัมพวัน วรรณโก” ที่ถูกพิษตีตราที่ดินระหว่างกรมทางหลวง และ ทอท. กรณีเซ็นทรัล วิลเลจ และไม่ยอมศิโรราบโอนสนามบินกระบี่ซุกอก “ทอท.” จึงถูกเด้งเข้ากรุ จากอธิบดีกรมท่าอากาศยาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง รอนับถอยหลังเกษียณ ก.ย.ปีหน้า

นี่แค่ลอตแรก ยังมีลอตสองที่รอแต่งตั้ง ทั้ง “กรมทางหลวงชนบท” กุมงบฯสร้างถนนปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท ที่จะมารับไม้ต่อจาก “กฤชเทพ สีมลี” มีคิวเกษียณ 30 ก.ย.นี้

ขณะนี้เก้าอี้กรมนี้กำลังฝุ่นตลบ เพราะคนอยากจะตีตราจองกันคึกคัก มีทั้งการเมือง รับเหมาขาใหญ่ และรับเหมาภาคอีสานออกแรงหนุนส่ง

ก่อนหน้านี้ มีชื่อ “สมัย โชติสกุล” ที่ตอนนี้ถูกเด้งไปเป็นผู้ตรวจกระทรวง ขณะเดียวกัน มีชื่อ “พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน” รองปลัดกระทรวง ที่สะพัดอยากจะกลับมารั้งเก้าอี้เดิม

ยังมี 3 รองอธิบดีเป็นแคนดิเดต อาวุโสสูงสุด “มานพ สุสิงห์” รองลงมา “ประศักดิ์ บัณฑุนาค” และ “ปฐม เฉลยวาเรศ” แต่เวลานี้ ชื่อ “ปฐม” ดูเปล่งรัศมีกว่าใคร ส่วนจะถูกใจบิ๊กคมนาคมหรือไม่ ยังต้องลุ้น

ขณะที่อธิบดีกรมท่าอากาศยาน มีชื่อ “จรุณ มีสมบูรณ์” รองอธิบดีด้านมาตรฐานดีกรีระดับด็อกเตอร์ เป็นแคนดิเดต ส่วนเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีการขานชื่อ “ชยธรรม์ พรหมศร” อาจจะถูกเลื่อนชั้นจากรอง ผอ.นั่งเป็นใหญ่ใน สนข.

เช่นเดียวกับอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ชื่อ “สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์” ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองอธิบดีกรม ด้วยอายุเพียง 47 ปี รัศมีก็โดดเด้งจะเป็นอธิบดี หากภารกิจลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่กำลังผลักดันเป็นไปตามเป้า

น่าจับตาไม่แพ้กัน คือ หัวเรือใหญ่รัฐวิสาหกิจที่ยังไร้ตัวจริง มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปัจจุบัน “วรวุฒิ มาลา” นั่งรักษาการผู้ว่าการมานาน และกำลังนับถอยหลังเกษียณปีหน้า น่าจะถึงเวลาที่องค์กรเก่าแก่แห่งนี้จะมีตัวจริงเสียงจริง มารันงานในมือมูลค่าหลายแสนล้านบาท

เก้าอี้ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก็น่าติดตาม หลัง “สุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล” คัมแบ็ก ถึงจะมีหนี้ท่วมกว่าแสนล้าน แต่มีโปรเจ็กต์ด่วนเรื่องค่าครองชีพ เดินหน้าบัตร e-Ticket จัดซื้อรถเมล์ปรับอากาศใหม่

ด้านผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รอลุ้น “สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์” ที่ถูกเด้งไปตบยุงที่สำนักนายกฯ จะได้หวนคืนเก้าอี้ก่อนที่จะหมดวาระในเดือน ก.ค. 2563 หรือตั้งใครมานั่งรักษาการแทนเพื่อสานงานต่อ ทั้งปิดฉากคดีข้อพิพาท และเซ็นสร้างทางด่วนใหม่ “พระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก” มูลค่า 3 หมื่นล้าน ที่ค้างเติ่งมานาน