คมนาคมแจงยิบ “รถไฟไทย-จีน” ไม่สะดุดใช้เงินกู้ในประเทศลงทุนย้ำเปิดหวูดปี’66

กระทรวงคมนาคม ชี้แจงประเด็นกรณีสื่อต่างประเทศและได้มีการนาเสนอผ่านสื่อภายในประเทศที่มีข้อความ คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงในการดาเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วง กรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา)

กรมการขนส่งทางราง และสานักงานบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (สบร.) กระทรวงคมนาคม ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันโครงการฯ มีความคืบหน้าในด้านต่างๆ เป็นอย่างมาก โดยไม่มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องของแหล่งเงิน

เนื่องจากได้รับการจัดสรรแหล่งเงินจากสานักงบประมาณและ กระทรวงการคลัง ที่ดาเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11กรกฎาคม 2560ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงาน ทั้งสองจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมสาหรับดาเนินโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งในการดาเนินงานโครงการ ได้แบ่งออกเป็น 4 สัญญา ดังนี้ สัญญาที่ 1 งานโยธา แบ่งเป็น 14 สัญญาย่อย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 สัญญา ได้ตัวผู้รับจ้างแล้วอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญา 5 สัญญา ระหว่างการพิจารณาผู้รับจ้าง 5 สัญญา ระหว่างการปรับปรุงร่างขอบเขตงาน (TOR) 1 สัญญา (ศูนย์ซ่อมบารุงเชียงรากน้อย)

และอยู่ระหว่างเตรียมเอกสาร ประกวดราคา 1 สัญญา (ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง) ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ที่อยู่ระหว่างเตรียมการดาเนินงาน

สัญญา 2.1 สัญญาการสารวจและออกแบบรายละเอียดงานโยธา ซึ่งดาเนินการ ออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว สัญญา 2.2สัญญาควบคุมงานการก่อสร้างงานโยธา (จ้างบริษัทจีนควบคุมงาน ก่อสร้าง) อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งทั้ง3 สัญญาดังกล่าวข้างต้น ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ใช้เงินกู้ ภายในประเทศทั้งสิ้น

ส่วนสัญญา 2.3 สัญญางานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถ และฝึกอบรมบุคลากร ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในหลักการของร่างสัญญา 2.3 เหลือเพียงขั้นตอนในการ ดำเนินงานของฝ่ายไทยที่จะได้เตรียมการดาเนินการตามแนวปฏิบัติของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนการลงนาม ในสัญญา

โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญา 2.3 ประมาณเดือนพฤศจิกายน2562 รวมทั้งกำหนดให้มีการถ่ายทอด เทคโนโลยี (Technology Transfer) เพื่อส่งเสริมให้การดาเนินสนับสนุนอุตสาหกรรมระบบรางภายในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Thai First ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ การดาเนิน โครงการดังกล่าว ไม่ได้ร่วมลงทุนกับฝ่ายจีน จึงไม่มีพันธะสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิ์พัฒนาพื้นที่สองข้าง ทางรถไฟ เนื่องจากไทยเป็นผู้รับผิดชอบลงทุนเองทั้งหมด โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2566 ซึ่งการลงทุนจะ ไม่เป็นภาระด้านงบประมาณและการลงทุนของประเทศที่สูงเกินไป เนื่องจากมีการเฉลี่ยการลงทุนในแต่ละปี

ทั้งนี้ การดาเนินโครงการดังกล่าว จะใช้ขบวนรถไฟความเร็วสูง รุ่น Fuxing Hao ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัย และ มีความเร็วสูงสุดในการให้บริการที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงที่ไปตามนิยามและสอดคล้อง กับคำจำกัดความของคำว่า “รถไฟความเร็วสูง (High Speed Rail) ที่ International Union of Railway (UIC) กำหนดว่า มีความเร็วสูงสุดให้บริการที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมเชื่อมั่นว่าการ ดาเนินงานโครงการดังกล่าว จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตลอดแนวเส้นทางรถไฟเป็นอย่างดี พร้อมทั้ง เป็นการกระจายความเจริญจากกรุงเทพมหานครไปยังภูมิภาคและจะเป็นการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

ในการ ดำเนินงานระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย เพื่อเชื่อมต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและ สาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้ยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative (BRI) เสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางด้าน การคมนาคมของไทยในภูมิภาคอาเซียนต่อไป


ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด กระทรวงคมนาคมจะได้รายงานถึงผลความคืบหน้าให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเป็นระยะต่อไป