“ศักดิ์สยาม” สั่งกรมทางหลวงรื้อค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจนบุรี” ใช้ฐานราคาประเมินกรมธนารักษ์ คาดลดจาก 1.2 หมื่นล้าน เหลือ 5-6 พันล้าน จ่ายผู้ถูกเวนคืน 3 พันราย ระหว่างรอกฤษฎีกาตีความค่าชดเชยก่อนหน้านี้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.เวนคืนหรือไม่ ผ่าทางตันงานก่อสร้างล่าช้า 2 ปี กลุ่ม BGSR ผู้รับจ้างงานระบบเก็บค่าผ่านทาง ขอยืดเวลาวางแบงก์การันตี จนกว่าจะส่งมอบพื้นที่ได้ “บางปะอิน-โคราช” งานรุดหน้า 80% ก.ค.ปีหน้าวิ่งฉิว “พัทยา-มาบตาพุด” ค่าผ่านทาง 130 บาท
หลังจากโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) ลงทุน 49,120 ล้านบาท สร้างคืบหน้า 22% ล่าช้ากว่าแผน 2 ปี ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณ 2562 ล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาเวนคืนที่ดินที่สูงขึ้น รอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายกรอบวงเงินเวนคืนที่เพิ่ม 12,534 ล้านบาท จ่ายให้ผู้ถูกเวนคืนยังเหลือกว่า 3,000 ราย
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ล่าสุด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้รอคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความค่าเวนคืนที่กรมทางหลวงนำราคาที่เสนอขายหรือประกาศขายที่ดิน มาใช้อ้างอิงในการกำหนดค่าตอบแทน จะมีความสอดคล้องตามมาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 2530 เป็นคู่มือของกระทรวงคมนาคมหรือไม่ ซึ่งกรมทางหลวงอยู่ระหว่างทำข้อมูลเพิ่มเติมเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
“ขณะที่การทำข้อมูลของกรมทางหลวงค่อนข้างกว้าง ทำให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตอบคำถามไม่ถูก จึงสั่งการให้กรมทางหลวงระบุสิ่งที่ต้องตอบให้ลงลึกและชัดเจนมากขึ้น เช่น วิธีคำนวณค่าเวนคืน ที่กฤษฎีกาเห็นว่า ควรทำเพิ่มเติมเข้ามาก็ได้สั่งการให้กรมทางหลวงไปทำแนบเพิ่มมาตามที่มีข้อเสนอแนะดังกล่าวแล้ว คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง”
แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมได้เข้าไปชี้แจงรายละเอียดการเวนคืนให้กฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าผลสรุปน่าจะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากกฤษฎีกาตีความว่ากรมดำเนินการมาถูกต้องแล้ว จะยืนยันไปที่สำนักงบประมาณเพื่อขออนุมัติงบประมาณ หากไม่มีข้อท้วงติงก็เสนอขอขยายกรอบวงเงินเพิ่มเติมจาก ครม.ต่อไป
ขณะเดียวกันอีกทางหนึ่งมีนโยบายจากกระทรวงคมนาคมให้กรมทำหลักเกณฑ์ราคาเวนคืนที่ดินใหม่ ให้นำราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์มาเป็นฐานในการคำนวณด้วย เพื่อใช้เป็นเกณฑ์จ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ถูกเวนคืนที่ยังเหลืออยู่ จากเดิมนำราคาที่เสนอขายและประกาศขายที่ดินมาเป็นฐานในการคำนวณ หากประชาชนไม่พอใจราคาที่ประกาศใหม่ก็สามารถอุทธรณ์ได้
“นโยบายต้องการจะปรับลดค่าเวนคืนที่เพิ่มขึ้น จึงให้ทำรายละเอียดข้อมูลโดยใช้ฐานราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ทำให้ลดค่าเวนคืนไปได้จาก 12,000 กว่าล้านบาท เหลือประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท หากฝ่ายนโยบายให้รื้อค่าชดเชยการเวนคืนใหม่ จะใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องทำตามขั้นตอน พ.ร.บ.เวนคืนฉบับใหม่ ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ทั้งนี้หากใช้แนวทางใหม่นี้จะทำให้มีปัญหาต่าง ๆ ตามมาอย่างแน่นอน”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างล่าช้าจากแผนงานไปมากแล้ว ซึ่งมีงานก่อสร้างประมาณ 7-8 สัญญาที่จะสิ้นสุดสัญญาในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้หลังจากมีข้อสรุปเรื่องค่าเวนคืนแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการเวนคืน จากนั้นกรมจะเร่งรัดงานก่อสร้างเพื่อให้แล้วเสร็จในปี 2565 คาดว่าจะเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2566
ทั้งนี้จากความล่าช้าของการเวนคืนของสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ส่งผลกระทบต่อแผนการส่งมอบพื้นที่งานระบบเก็บค่าผ่านทางและการบำรุงรักษาโครงการ (O&M) ที่กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และ บมจ.ราชกรุ๊ป เป็นผู้ชนะประมูลเสนอขอผลตอบแทนจากรัฐ 17,809 ล้านบาท รับจ้างก่อสร้างและบริหารจัดเก็บค่าผ่านทาง ระยะเวลา 30 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อนำไปสู่การเซ็นสัญญาในเดือน ก.พ. 2563
“ตอนเปิดประมูลเขียนทีโออาร์ไว้อยู่แล้วว่า การส่งมอบพื้นที่สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะล่าช้า เราให้เอกชนยืนราคาได้ 360 วัน และยังไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งสัญญาหลังเซ็นสัญญาก็ได้ ซึ่งในการเจรจากับเอกชนมีประเด็นนี้รวมอยู่ด้วย โดยเอกชนขอยังไม่วางแบงก์การันตีจนกว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ เพราะจะมีต้นทุนเรื่องค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเคลียร์เรื่องเวนคืนเสร็จเมื่อไหร่”
สำหรับมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่า 80% ยังล่าช้ากว่าแผนงาน เนื่องจากมีปรับแบบการก่อสร้างในแนวเส้นทาง จำนวน 17 สัญญา ให้สอดรับกับสภาพพื้นที่ปัจจุบัน เช่น ปรับแบบเดิมงานระดับเป็นงานสะพาน ได้แก่ ช่วงมวกเหล็ก ลำตะคอง
ส่วนบริเวณบางปะอิน เป็นจุดต่อเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอก มีการขุดบ่อลึก 15-20 เมตร เป็นต้น ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 6,000 ล้านบาท จะต้องรายงาน ครม.เพื่อทราบ ซึ่งสำนักงบประมาณอนุมัติแล้ว ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างทำรายละเอียดเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป
“โครงการนี้ต้องแก้ไขในสัญญาเดิม วงเงินที่เพิ่มไม่ได้เกินจากกรอบเดิมที่ ครม.อนุมัติค่าก่อสร้างไว้ 71,825 ล้านบาท เพราะตอนประมูลสามารถประหยัดค่าก่อสร้างไปได้จากการที่ผู้รับเหมาเสนอต่ำกว่าราคากลางกว่า 12,000 ล้านบาท หลัง ครม.อนุมัติจะเร่งก่อสร้างให้เสร็จภายในปลายปี 2563 หรืออย่างช้าปี 2564 อาจจะเปิดให้ใช้บริการไปก่อน ระหว่างรองานระบบเก็บค่าผ่านทางที่กลุ่มบีทีเอสชนะประมูลด้วยวงเงิน 21,329 ล้านบาท ดำเนินการเสร็จ คาดว่าจะเปิดอย่างเต็มรูปแบบในปี 2566”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ประมาณเดือน ก.ค. 2563 กรมจะเปิดให้บริการมอเตอร์เวย์สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. ปัจจุบันกำลังสร้างด่านและติดตั้งระบบเก็บค่าผ่านทาง ขณะนี้มีความคืบหน้าประมาณ 25% ส่วนอัตราค่าผ่านทางใช้บริการจากกรุงเทพฯ-มาบตาพุด จะเก็บ 130 บาท
