ไทย-จีนเดินหน้าไฮสปีดอีสาน เร่งสรุป”แหล่งเงินกู้”ซื้อระบบ5หมื่นล้าน

“บิ๊กตู่-หลี่ เค่อเฉียง” ประสานเสียง เดินหน้ารถไฟไทย-จีน “ศักดิ์สยาม” เตรียมถกแหล่งเงินงานระบบ 5 หมื่นล้าน พ.ย.นี้ ที่ประชุม JC “เจ้าสัว ซี.พี.” ร่วมวงประชุม 2 นายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพบปะและหารือร่วมกันระหว่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย กับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2562 นายกรัฐมนตรีฝ่ายไทยได้รายงานความคืบหน้ารถไฟความเร็วสูงเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย-จีน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท ว่ายังติดปัญหาบางประการ และคิดว่าควรจะมีการเจรจาต่อไป ขณะที่นายกรัฐมนตรีฝ่ายจีนแสดงความพร้อมในการเดินหน้าโครงการ ประเด็นใดที่เร่งดำเนินการได้ก็ให้เร่ง ส่วนประเด็นที่ติดปัญหาให้เร่งเจรจากันต่อไป

“เรื่องนี้จะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ เพราะไทยและจีนมีความสัมพันธ์กันมานานและยิ่งใหญ่กว่าเรื่องรถไฟและขอให้หาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม หากจะแก้ประเด็นใดต้องไม่ให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แก่คนรุ่นหลังในภายหน้าได้” แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายหลี่ เค่อเฉียง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยังไม่ได้หารือสัญญา 2.3 งานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟ มูลค่า 50,633.5 ล้านบาท ยังติดปัญหาเงินกูู้จะเป็นสกุลบาทหรือดอลลาร์สหรัฐ

“จีนมองว่าเงื่อนไขยังตกลงกันไม่ได้ควรให้ได้ข้อสรุปในชั้นคณะกรรมการร่วมรถไฟระหว่างไทย-จีนหรือ JC ก่อนนำมาหารือระดับผู้นำ จะประชุมครั้งที่ 28 ในเดือน พ.ย.นี้ ทั้งนี้คมนาคมมีโอกาสนำข้อมูลทั้งหมดเสนอแด่นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศเรื่องข้อดีข้อเสียกู้เงินในสกุลเงินต่าง ๆ ฝ่ายจีนยังไม่ได้มีท่าทีอะไร”

จากการหารือร่วมไทย-จีนที่ผ่านมา จีนเป็นห่วงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ไทยได้ตอบกลับหากกู้ในเงินบาทจะมีประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างไร ขณะที่กระทรวงการคลังก็แนะนำให้ทำในรูปแบบอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ จีนอาจจะยังไม่ทราบขั้นตอน จึงต้องทำความเข้าใจวิธีปฏิบัติให้เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ประเทศ และต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่อนุญาตให้ทำ กำลังหารืออัยการสูงสุด ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ ยังไม่สรุป เพราะ 2 สัญญาก่อนหน้านี้คือ สัญญาจ้างออกแบบกับควบคุมงาน จะใช้สกุลเงินบาทชำระกับจีน ส่วนสัญญาจ้างเดินรถและวางระบบ ก็เจรจาในรูปสกุลเงินบาท แต่จีนต้องการให้จ่ายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นหัวข้อเจรจาเพิ่ม หากเจรจาลงตัว จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติและเซ็นสัญญาต่อไป

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-จีนก่อนหน้านี้ จีนเสนอให้กู้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของรัฐบาลจีน (CEXIM) อัตราดอกเบี้ย 3% แต่กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย ทำให้การกู้เงินกับจีนเป็นเรื่องยาก เช่น ให้มีอนุญาโตตุลาการ ทาง CRDC และ CRIC รัฐวิสาหกิจของจีน ขอต่อรองเงื่อนไขการเบิกเงินกับไทยให้เร็วขึ้นจากเดิม 15 วันทำการ นอกจากนี้หากจะกู้จีน ฝ่ายไทยจะต้องนำเอกสารส่งมอบพื้นที่มาให้จีนดูทั้งหมดก่อนว่าพร้อมก่อสร้างเหมือนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นต้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือ ซี.พี. เดินทางมาร่วมงานดังกล่าวด้วย โดยมาพร้อมกับผู้ติดตาม 1 คน และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน