“แอสเสท เวิรด์“ลุยมิกซ์ยูสแสนล้าน ปักหมุด”พัทยา” แลนด์มาร์คใหม่ 2 หมื่นล้าน รับไฮสปีด

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทได้อนุม้ติแผนการลงทุน 5 ปี (2563-2567) จำนวน 13 โครงการ มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนี้จะเริ่มเดินหน้าโครงการ มีทั้งโรงแรมและโครงการมิกซ์ยูส

“ใน 13 โครงการ จะมีรีแบรนด์โรงแรมเดิม 4 แห่ง มีทั้งพัทยา เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เช่น อิมพีเรียล แม่ปิงที่เชียงใหม่ ที่เหลือเป็นการลงทุนใหม่ จะทำให้มีพอร์ตโรงแรมเพิ่มขึ้น 4,085ห้อง จากเดิม 14 แห่ง มีห้องพัก 4,421 ห้อง เป็น 8,506 ห้องใน 5 ปีนับจากนี้ ขณะเดียวเตรียมจะขยายการลงทุนเพิ่มอีก 4.5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับ5.5 หมื่นล้านบาท เท่ากับบริษัทจะใช้เงินลงทุนร่วม 1 แสนล้านบาท”

นางวัลลภากล่าวอีกว่า บริษัทได้เเซ็นสัญญากับ แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ให้บริหารโรงแรม 3 แห่ง รวม1,546ห้องพัก 1,546ได้แก่ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีชรีสอร์ท แอนด์สปา, โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์ดีส์ และ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์

โดยโครงการ AWC CENTER PATTAYA จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุด สร้างบนพื้นที่ 16 ไร่ ติดดับโรงแรมอาร์ดรอร์ค ใกล้กับโครงการอินฟราสตรัคเจอร์ของภาครัฐ ทั้งรถไฟความเร็วสูงที่จะมีสร้างโมโนเรลเชื่อมจากสถานีพัทยา มอเตอร์เวย์ สนามบิน รูปแบบการพัฒนาจะเป็นมิกซ์ยูส จะใช้เงินลงทุน20,000 ล้านบาท เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในพัทยา

ประกอบด้วย โรงแรม เจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์คีส์ มีห้องพักรวม 1,268 ห้อง ห้องประชุมสัมมนา ภัตตาคารและร้านอาหาร 11แห่ง และยังมีย่านช้อปปิ้ง และเอ็นเตอร์เทรนเม้นต์ด้วย คอนเซ็ปตจะคล้ายกับเอเชียทีค ซึ่งบอร์ดอนุมัติเงินลงทุนแล้ว 14,000 ล้านบาท

“ใน 4 ปีนี้จะะเปิดบริการในเฟสแรกส่วนของช้อปปิ้งก่อน เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้วโลกมาพัทยา จะทำเป็นไลฟ์สไตล์ระดับไอคอนพัทยา ส่วนโรงแรมจะให้ทั้ง2 แบรนด์อยู่ในตึกเดียว โดยจะสร้างเป็นอาคารสูง 60 ชั้น คาดว่าจะสูงที่สุดและเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในพัทยา“

ขณะที่ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ เป็นการปรับปรุงโรงแรมเดิมคือโรงแรม“เดอะเมโทร เมโทรโพล ภูเก็ต ” ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต เนื้อที่ 16 ไร่เศษ มีห้องพัก 248 ห้อง มีภัตตาคารและร้านอาหาร 2 แห่ง และพื้นที่จัดประชุมสัมมนากว่า 2,000 ตารางเมตร จะใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท จะใช้เวลาปรับปรุง 2 ปี

นางวัลลภากล่าวอีกว่า บริษัทยังกำลังขยายโรงแรมขนาด 800 ห้องบนที่ดินเป็นลานจอดรถของโครงการเอเชียทีค จะใช้เงินลงทุน 7,000 ล้านบาท และได้ซื้อที่ดินด้านข้างอีก 20 ไร่ จะพัฒนาเป็นโครงการมิกย์ยูส มีร้านอาหาร ภัตตาคาร แหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากเอเชียทีค ให้เป็นแลนด์มาร์คใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนที่ดินอยู่ฝั่งตรงข้ามยังไม่แผนจะพัฒนาในเร็วๆนี้ จากเดิมจะพัฒนาเป็นเอชียทีค 2

ทั้งนี้ประเมินว่าในปี2563 แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในประเทศไทยยังคงเติบโตอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันมีหลายหน่วยงานได้เลือกมาประชุมและสัมมนาที่ประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมมีจากประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์เป็นอันดับต้นๆ ส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยนปีหน้าน่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ เพราะประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกที่จะเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง