ทอท.ดันสุดลิ่มเทอร์มินอล 2 เมินเสียงค้าน วสท.ลุยสร้าง 4.2 หมื่นล้าน

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ

ทอท.เมินเสียงวิศวกรค้าน ขอฟังเสียงผู้ใช้จริง ดันสุดลิ่มเทอร์มินอล 2 สุวรรณภูมิ พื้นที่ 3.48 แสนตารางเมตร มูลค่า 4.2 หมื่นล้าน ชงบอร์ดเคาะ 20 พ.ย.นี้ ก่อนเสนอคมนาคม สภาพัฒน์ ครม.อนุมัติ ด้าน “สมเจตน์-สามารถ” ขย่มไม่หยุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงคมนาคมรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเดินหน้าก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ หรือเทอร์มินอล 2

ของสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 42,081 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถรับผู้โดยสารได้มากขึ้น จากปัจจุบันเกิน 20 ล้านคน/ปี จากขีดความสามารถรับได้ 45 ล้านคน/ปี อยู่ที่ 65 ล้านคน/ปี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่ง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) รับฟังความคิดเห็นหน่วยงานก่อนนำเสนอโครงการให้สภาพัฒน์ฯพิจารณาอีกครั้งหลังถูกตีกลับให้ ทอท.ขยายอาคารหลังเดิมฝั่งตะวันออกและตะวันตกแทน

ขณะเดียวกันยังมีผู้คัดค้านล่าสุด วันที่ 14 พ.ย. 2562 สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) จัดเสวนา “เทอร์มินอล 2 ตัดแปะ หายนะ?สุวรรณภูมิ” โดย รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการ บจ.ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) กล่าวว่า ทอท.อ้างความเห็นขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ไม่หมดที่ให้สร้างเทอร์มินอล 2 เพราะ ICAO กำหนดเงื่อนไขให้สร้างกรณีที่บริหารสนามบินเดียวและเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศเป็นหลัก

“ทอท.บริหารสนามบินสุวรรณภูมิคู่ดอนเมือง และรัฐกำลังพัฒนาอู่ตะเภา จึงไม่สามารถก่อสร้างได้ตามที่อ้าง หากจะทำนอกเงื่อนไข ICAO ต้องศึกษาใหม่ ที่ผ่านมา ครม.อนุมัติให้สร้างอาคารด้านตะวันออกตั้งแต่ปี 2553 ทำไมไม่สร้าง ทั้งที่พร้อมกว่า และ EIA ก็ผ่านแล้ว แบบก่อสร้างก็มี”

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า master plan ปี 2536 ไม่ระบุตำแหน่งเทอร์มินอล 2 มีเพียงเทอร์มินอลหลัก 2 อาคาร คือ เทอร์มินอล 1 ด้านเหนือ ฝั่งมอเตอร์เวย์ และเทอร์มินอล 2 ด้านใต้ ฝั่ง ถ.บางนา-ตราด มีรันเวย์ 4 เส้น รับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน/ปี การที่ ทอท.อ้างแผนพัฒนาจะรับผู้โดยสาร 150 ล้านคน/ปี เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องสร้างรันเวย์อีก 6 เส้น

“วิธีแก้ควรเฉลี่ยผู้โดยสารไปใช้ดอนเมือง รับได้สูงสุด 40 ล้นคน/ปี และอู่ตะเภารับได้ 60 ล้านคน/ปี รวมกับสุวรรณภูมิจะรับได้ 200 ล้านคน/ปี เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น และเทอร์มินอล 2 เสร็จไม่ทันปี 2565 รับไม่ได้ 30 ล้านคนเพราะหลุมจอดไม่พอ”

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ทอท. เปิดเผยว่า ได้รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้อง เช่น สายการบิน ผู้โดยสาร ครบถ้วนแล้ว จะเสนอโครงการเทอร์มินอล 2 เข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะใช้สร้าง 3 ปี เสร็จปี 2566-2567 รับผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศได้ 40 ล้านคน/ปี

โดยมีพื้นที่อาคาร 348,000 ตร.ม. ช่องตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า 82 เลน ขาออก 66 เลน สายพานลำเลียงกระเป๋า 17 สายพาน อาคารจอดรถ 3,000 คัน ประตูทางออกอาคารผู้โดยสาร 14 ประตู

และพื้นที่เอ็นเตอร์เทรนและรีเทลคอมเพล็กซ์ในรูปแบบมิกซ์ยูส จะตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากกว่าขยายพื้นที่อาคารผู้โดยสารปัจจุบัน

“วิศวกรหลายฝ่ายระบุรับผู้โดยสารไม่ได้ตามที่ประมาณการ ไม่ควรใช้หลักวิศวะตัดสิน ต้องนำความเห็นของคนใช้งานจริงและเราทำตาม ICAO แนะคือ พัฒนาอาคารที่แยกเป็นอิสระต่อเนื่องกับอาคารเทียบเครื่องบิน A และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA แนะนำต้องปรับ master plan ทุก ๆ 5 ปี ให้สอดคล้องกับบริบทธุรกิจการบินที่เปลี่ยนแปลงไป”

ทั้งนี้ การขยายเทอร์มินอลหลังเดิมซ้ายและขวา ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะผู้โดยสารเกินศักยภาพจะรองรับไปแล้ว ปัจจุบันสนามบินรับอยู่ 65 ล้านคน/ปี มากกว่าศักยภาพไปแล้ว 20 ล้านคน/ปี ICAO บอกไม่เหมาะสมแล้ว และคาดว่าจะพัฒนากันเร็วกว่านี้ แต่การพัฒนาทำช้าไปแล้ว จะขยายซ้ายและขวาต้องว่ากันใหม่ จะมาเปิดหน้างานทุบกระจกทั้งสองข้างในเวลานี้ ผู้โดยสารก็รับไม่ไหว

ขณะที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 จะเสร็จ พ.ย. 2563 รองรับผู้โดยสารต่อเครื่องเป็นหลัก ไม่ได้มีไว้รองรับผู้โดยสารภายในและต่างประเทศ จึงไม่ได้เติมพื้นที่เช็กอินหรือด่านตรวจคนเข้าเมือง

“มาสเตอร์แพลนไม่ได้เปลี่ยนในนัยสำคัญ ยังไล่เฟสก่อสร้างตามเดิมให้เต็มพื้นที่กว่า 2 หมื่นไร่ แต่ระหว่างพัฒนาเฟส 2 และเฟส 3 ขอแทรกเทอร์มินอล 2 เข้าไปก่อน เป็นการปรับปรุงตามสถานการณ์ ไม่ได้แตะต้องสิ่งที่ต้องทำไว้เดิมเลย ทอท.ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือกฎเกณฑ์ใด เพราะต้องเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม สภาพัฒน์ และคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบยังไม่รู้ว่าจะได้รับอนุมัติหรือไม่” นายนิตินัยกล่าวย้ำ