ม็อบ ขสมก.บุกคมนาคมค้าน “ศักดิ์สยาม” สั่งแปรรูป-เปิดทางเอกชนเดินรถแข่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่กระทรวงคมนาคม มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมตัวประท้วงอยู่ด้านหน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อขอคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขสมก. ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฎิบัติการ (workshop) เรื่องการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในทุกภาคส่วน ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสโมสรและหอประชุมกระทรวงคมนาคมในเวลา 14.00 น.

โดยนายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิวสาหกิจ ขสมก. ได้ทำหนังสือยื่นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยระบุว่าตามที่ให้นโยบายทบทวนแก้ไขแผนฟื้นฟูของ ขสมก.ให้ยกเลิกแผนการจัดซื้อรถโดยสารจำนวน 3,000 คัน เส้นทางเดินรถในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น ไม่เห็นด้วยและคัดค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ดังนี้

1.ให้องค์การเดินรถในเส้นทางเดิมจำนวน 137 เส้นทาง ส่วนที่เหลือให้เอกชนดำเนินการ โดยไม่ต้องให้กรมการขนส่งทางบกไปกำหนดเส้นทางเดินรถใหม่

2.เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูตามที่คณะกรรมการกำกับนโยบายหรือ คนร. มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้องค์การจัดหารถใหม่ จำนวน 3,000 คันและปรับปรุงรถเก่า จำนวน 323 คัน มาแทนรถเก่าที่หมดอายุการใช้งานให้ดำเนินการตามมติ ครม.

3.การแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) โดยอดีตที่ผ่านมารัฐมนตรีได้แต่งตั้งบุคคลที่มีความรู้ความสามารถไม่ตรงกับลักษณะการบริหาร ขสมก. ทำให้การบริหารงานไม่เป็นไปตามกฎหมายบังคับ ระเบียบ และวิธีปฎิบัติขององค์การ ดังนั้นการแต่งตั้งบอร์ด สหภาพแรงงานขอให้แต่งตั้งอดีตผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถในการเดินรถไม่น้อยกว่า 2 คน

4.ขสมก.เป็นรัฐวิสาหกิจโดยมีวัตถุประสงค์บริการคนยากคนจน ผู้มีรายได้น้อย เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และสนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการกำหนดราคาค่าโดยสาร รัฐบาลโดยกระทรวง และกรมการขนส่งทางบกกลาง ได้กำหนดให้องค์การเก็บอัตราค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ ขสมก.ขาดทุนสะสมประมาณ 1.1 แสนล้านบาท รัฐบาลต้องรับผิดชอบภาระหนี้สินดังกล่าวแทนองค์การ ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง ขสมก.ตามมาตรา 11 วรรค 2 และ 5.นโยบายเกษียณก่อนกำหนด จะต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยไม่บังคับขู่เข็ญ และเลิกจ้างพนักงาน

สหภาพฯเห็นว่าแนวคิดนี้มิใช้แนวทางแก้ไขปัญหามีแต่จะสร้างปัญหามากกว่าเดิม ปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว และขอให้ดำเนินการตามมติ ครม.เดิม และขอให้แจ้งความคืบหน้าใน 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่านายศักดิ์สยาม จะมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมเชิงปฎิบัติการหรือไม่ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน

ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายนนี้ เวลา 14.00 น. ขสมก.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เรื่อง “การปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.” โดยมีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ใหม่

จากเดิมที่จะต้องมีการจัดซื้อรถโดยสารใหม่ 2,511 คัน ใช้งบประมาณในการจัดซื้อมากกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระงบประมาณของประเทศ จึงเสนอให้มีการจ้างผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนมาให้บริการ แล้วนำรายได้จากการให้บริการมาจ่ายเป็นค่าจ้าง

ซึ่งปัจจุบัน ขสมก. อยู่ระหว่างดำเนินการในหลายเส้นทาง ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพบริการที่ดี และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย จากผลการศึกษาของคณะทำงาน ขสมก. พบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้

จากแผนฟื้นฟูเดิม มีแนวคิดว่าหากประชาชนเดินทาง 2 เที่ยวต่อวัน จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ วันละ 48 บาท เป็นวันละ 30 บาท เมื่อใช้บริการรถโดยสารปรับอากาศ โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องมีการปรับเส้นทางการเดินรถ ให้เป็นระบบเชื่อมต่อสายหลักกับสายรองอย่างครบถ้วน และใช้ระบบการจัดเก็บค่าโดยสารระบบเดียวกัน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอในที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ

ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพบริการ ด้วยการใช้รถโดยสารปรับอากาศทั้งระบบ และเป็นรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น NGV พลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพื่อลดปริมาณมลพิษ PM 2.5 รวมถึงการสร้างขวัญกำลังใจที่ดีแก่พนักงาน ขสมก. ที่ได้รับผลกระทบจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยเฉพาะพนักงานเก็บค่าโดยสารเนื่องจากรถโดยสารในอนาคตจะใช้ระบบ E-ticket มาให้บริการ ซึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงาน ประมาณ 5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ขสมก.เชื่อว่าด้วยแนวทางดังกล่าว จะทำให้ได้รับความคิดเห็นที่ดีจากผู้เข้าร่วมประชุม และจะได้นำแผนฟื้นฟู พร้อมทั้งข้อเสนอจากที่ประชุม รายงานให้ประชาชนผู้ใช้บริการรับทราบผ่านทางเว็บไซต์ ขสมก. เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย และมีความมั่นใจว่า แนวทางที่นำเสนอนี้ จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้กับ ขสมก.อย่างยั่งยืน

ไม่เป็นภาระของรัฐบาล และที่สำคัญประชาชนได้ใช้บริการที่ดี และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จากการศึกษาของ ขสมก.พบว่า หากแผนฟื้นฟูกิจการฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบให้สามารถดำเนินการได้ จะสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ไม่เกิน เดือนละ 900 บาท และหากซื้อตั๋วเดือน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ เดือนละ 750 บาท และรถโดยสารทุกคันจะเป็นรถโดยสารปรับอากาศ