โครงการทางเลียบเจ้าพระยาคืบแล้ว “กทม.”อยู่ระหว่างปรับแบบและประเมินราคากลาง

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ท่าเรือเกียกกาย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่รื้อย้ายบ้านรุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 2 หลัง บริเวณท่าเรือเกียกกาย ตามแผนพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในระยะนำร่อง 14 กิโลเมตร (กม.) ว่า จากแผนการพัฒนาในระยะแรกนั้น พบว่ามีบ้านรุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้องรื้อย้าย 273 หลัง 14 ชุมชน และท่าเทียบเรืออีก 9 แห่ง โดยเบื้องต้น กำหนดกรอบในการรื้อย้ายบ้านรุกล้ำให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ยกเว้นชุมชนมิตรคาม 1 และ 2 ที่อาจล่าช้ากว่าชุมชนอื่น เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดสรรพื้นที่รองรับการรื้อย้าย

นายจักกพันธุ์กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันได้กำหนดมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 5 ชุมชน 51 หลังคาเรือน 1.ชุมชนปากคลองบางเขนใหม่ 2.ชุมชนวัดสร้อยทอง 3.ชุมชนท่าเรือเกียกกาย 4.ชุมชนเขียวไข่กา และ 5.ชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลนี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. ส่วนชุมชนที่เหลืออยู่ระหว่างทำสัญญาและเจรจา คณะกรรมการพิจารณาเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบได้ประเมินมูลค่าสิ่งปลูกสร้าง ค่าขนย้ายวัสดุและทรัพย์สิน ในวงเงินประมาณ 104.5 ล้านบาท เกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือแบ่งได้เป็น 2 กรณี ได้แก่ 1. หลังรื้อย้ายบ้านแล้วร้อยละ 100 รับเงินช่วยเหลือเต็มจำนวน และ 2.ทำสัญญาขอรับเงินช่วยเหลือก่อนร้อยละ 50 และมอบเงินช่วยเหลือที่เหลือหลังรื้อย้ายบ้านตามที่กำหนดในสัญญา

เมื่อถามถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาในระยะ 14 กม.แรก นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักการโยธาอยู่ระหว่างการปรับรูปแบบก่อสร้างและประเมินราคากลางงานก่อสร้างในเฟสแรก ภายในงบประมาณ 8,363 ล้านบาท และหากเกิดปัญหาหรืออุปสรรคขึ้น กทม.จำเป็นต้องปรับรูปแบบที่เหมาะสม แม้คณะที่ปรึกษาได้ออกแบบและมีแผนพัฒนาแล้วก็ตาม ทั้งนี้ ยังได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของประชาชนอีกด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์