คมนาคมมอบของขวัญปีใหม่เปิดใช้ถนน-สะพาน 5 โปรเจ็กต์

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) แถลงผลงานสำคัญในรอบ 4 เดือน ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการเรียบร้อยแล้ว ตลอดจนโครงการที่เตรียมเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการรับปีใหม่ 2563 นี้

โดยอธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าวว่า ทช.ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนและสะพาน สอดรับนโยบายของรัฐบาลและนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว คมนาคมขนส่ง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯและปริมณฑลโดยในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมามีโครงการที่สำคัญขนาดใหญ่ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรแล้ว จำนวน 5 โครงการ ดังนี้

1. โครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 1098 – ทางหลวงหมายเลข 1 (ตอนที่ 2) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นโครงการเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ (Logistics) ที่ต่อเนื่องกับโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อม ทล.1129 กับ ทล.1098 อำเภอเชียงแสน – อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างท่าเทียบเรือเชียงแสน แห่งที่ 2 พร้อมทั้งเป็นการแก้ปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นบนถนน ทล.1098 และ ทล.1209 อันเนื่องมาจากข้อจำกัดด้านพื้นที่เขตชุมชนที่มีความลาดชันและคดเคี้ยวเป็นอันมาก ซึ่งมีผลทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง สูญเสียทรัพยากรทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้สัญจรในสายทางดังกล่าว โดยมีรูปแบบทั่วไปเป็นถนนลาดยาง 4 ช่องจราจร พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำกก จำนวน 2 แห่ง ระยะทางตลอดสาย 28.780 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,656.215 ล้านบาท

2. โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เป็นโครงการเพื่อพัฒนาโครงข่ายสะพาน เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาการเดินทางของประชาชนที่ไป – มา ระหว่างฝั่งของตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท กับตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ต้องสัญจรด้วยแพขนานยนต์ หากจะเดินทางด้วยรถยนต์เพื่อใช้สะพานข้างเคียง ต้องเดินทางไปประมาณ 25 กิโลเมตร ทช.จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท

ซึ่งจะเชื่อมระหว่างตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท กับ ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี โดยก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก
2 ช่องจราจร พร้อมถนนเชิงลาด ความยาว 890 เมตร ผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.50 เมตร รวมทั้งที่กลับรถใต้สะพานใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 488.076 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ ประชาชนจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ช่วยลดระยะทางในการสัญจร รวมทั้งเป็นเส้นทางลัดไปยังจังหวัดอุทัยธานี และสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญให้ประชาชนสามารถเดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ณ วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

3. โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านสระน้อย – บ้านปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง มีศักยภาพในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่มีความสมบูรณ์และหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่เดิมและพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง เหมาะที่จะยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ทช.จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวให้สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง มีความสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และมีความปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม

ทั้งเป็นเส้นทางจราจรอีกเส้นทางหนึ่งสำหรับการเดินทางลงสู่ภาคใต้ ซึ่งจะช่วยลดความแออัดของ ทล.4 (ถนนเพชรเกษม)
โดยโครงการก่อสร้างถนนสายบ้านสระน้อย – บ้านปากน้ำปราณ เป็นส่วนหนึ่งของถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้(Thailand Riviera) เป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร ผิวจราจรกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.5 – 2.5 เมตร พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ จุดพักรถ จุดชมวิว ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 74.488 ล้านบาท

4. โครงการขยายถนนกัลปพฤกษ์ ช่วงกาญจนาภิเษก-ถนนราชพฤกษ์ เป็นโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตปริมณฑล ซึ่งเดิมถนนกัลปพฤกษ์มี 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ) มีจุดเริ่มต้นที่ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ไปสิ้นสุดที่ถนนราชพฤกษ์บริเวณสวนเลียบ แม้ว่าที่ผ่านมา ทช.ได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกถนนสุขาภิบาล 1 และถนนกำนันแม้นแล้วเสร็จ สามารถแก้ไขปัญหาจราจรได้ในระดับหนึ่ง

แต่เนื่องจากมีการขยายตัวของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ในช่วงเวลาเร่งด่วนมีการจราจรหนาแน่น จึงมีความจำเป็นต้องขยายถนนกัลปพฤกษ์ จาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ระยะทาง 7.602 กิโลเมตร ในพื้นที่เขตทางเดิม เป็นผิวจราจรแบบแอสฟัลต์คอนกรีต พร้อมก่อสร้างระบบระบายน้ำ ทางเดินเท้า ปรับปรุงคอสะพานตลอดเส้นทาง ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และเครื่องหมายจราจรที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 476 ล้านบาท

5. โครงการขยายถนนราชพฤกษ์ ระยะที่ 2 ตอนที่ 3 ช่วงถนนรัตนาธิเบศร์ – ทางหลวงหมายเลข 345 เป็นโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตปริมณฑล ซึ่งปัจจุบันถนนราชพฤกษ์มีปริมาณจราจรประมาณ 55,000 คันต่อวัน ส่งผลให้ถนนราชพฤกษ์เกิดปัญหาจราจรติดขัดโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและความปลอดภัย ทช.จึงได้มีโครงการก่อสร้างขยายผิวจราจรเพิ่มเติม โดยก่อสร้างทางคู่ขนานเพิ่มเติมฝั่งละ 2 ช่องจราจร รวมจากเดิม 6 ช่องจราจร เป็น 10 ช่องจราจร พร้อมทางเท้าและระบบระบายน้ำ ซึ่งที่ผ่านมา ทช.ได้ดำเนินการขยายถนนราชพฤกษ์ ช่วงคลองมหาสวัสดิ์-ถนนรัตนาธิเบศร์ ระยะที่ 2 (ตอนที่ 1) กม.14+100 – กม.22+900
(ยกเว้นช่วง กม.15+660 ถึง กม.17+800) ระยะทางประมาณ 6.66 กิโลเมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2558


ต่อมาได้ดำเนินการขยายถนนราชพฤกษ์ ระยะที่ 2 (ตอนที่ 2) ช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 – คลองมหาสวัสดิ์ กม.6+600 –กม.14+100 ระยะทางประมาณ 7.500 กิโลเมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2560 ขณะนี้ ทช.อยู่ระหว่างดำเนินการขยายถนนราชพฤกษ์ ระยะที่ 2 (ตอนที่ 3) กม.22+476 – กม.30+843 ช่วงถนนรัตนาธิเบศร์ – ทางหลวงหมายเลข 345 ระยะทาง8.367 กิโลเมตร ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของถนนราชพฤกษ์ที่จะต้องขยายเพิ่มช่องจราจร คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในเดือนธันวาคม 2562 นี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 988 ล้านบาท