“ศักดิ์สยาม 2020” ไอเดียกระฉูดสั่งจับปรับรถแช่เลนขวา-ผุดจุดพักรถมอเตอร์เวย์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นโยบายที่เน้นย้ำกับกรมทางหลวง (ทล.) เป็นนโยบายที่เคยให้ไว้เมื่อเข้ามารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2562 มีหลายเรื่องด้วยกัน

@สแกนนโยบายซิ่ง 120 กม./ชม.

เริ่มที่นโยบายการกำหนดอัตราความเร็วถนนที่มี 4 ช่องทางจราจรขึ้นไป ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. จะมีการประชุมอัพเดตในเดือน ม.ค.นี้ ก็ให้ดูจุดที่ดำเนินการได้ โดยยังไม่ให้ใช้บังคับทั่วประเทศ และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยมาก่อน สิ่งเหล่านี้จะสอดรับกับการรอผลทดสอบการรับแรงกระแทกแผ่นยางพาราครอบแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier) ที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กำลังทำอยู่ จะเป็นหลักประกันที่จะทำให้เกิดความปลอดภัย

ส่วนไทม์ไลน์ต้องรองบประมาณปี 2563 ประกาศใช้อย่างเป็นทางการก่อน และรอผลทดสอบแผ่นยางพาราครอบแบริเออร์ที่แน่ชัดก่อน จึงจะกำหนดได้ พูดง่ายๆ คือ อยากให้เตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยก่อน

ทั้งนี้ให้นโยบายเพิ่มเติมไปว่า ในถนนที่ก่อสร้างใหม่จะต้องใช้แบริเออร์แบบดังกล่าวให้หมด จะไม่ก่อสร้างเกาะกลางที่เป็นเกาะหญ้าอีก ยกเว้นเขตชุมชนที่มีความจำเป็นต้องทำ เพื่อภูมิทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น ที่บังคับเช่นกันก็เพราะว่าเป็นการประหยัดงบประมาณด้านการก่อสร้าง การดูแลรักษา

จะไม่มีการรื้อเกาะกลางในถนนเส้นเดิมออก เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ จากสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ก็ได้ให้ ทล.ไปสำรวจทางหลวง เส้นทางต่างๆ ว่ามีจุดใดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ให้ไปสืบหาสาเหตุมา และต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อดำเนินการเเก้ไขต่อไป

@ปิ๊งไอเดียจับปรับรถแช่เลนขวา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คาดว่าจะทำได้ก่อนคือ การดำเนินการกับผู้ขับขี่รถยนต์ช้ากว่า 90 กม./ชม.ในเลนขวา จะประสานกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก. จร.) ดำเนินการจับปรับ คาดว่าจะได้เห็นภายในปีนี้แน่นอน

@ขีดเส้นจุดพักรถต้องอยู่ห่างถนน 1 กม.

นายศักดิ์สยามกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของจุดพักรถ (Rset Area) ได้ให้นโยบายกำชับกับทางกรมเช่นกันว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การจัดตั้งสถานีบริการน้ำมันอยู่ใกล้กับถนนหลวงมากเกินไป ทำให้เกิดการจราจรติดขัด ในกรณีที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนเกิดปัญหารถติดในหลายจุด ดังนั้น ต่อไปนี้ การทำจุดพักรถจะต้องอยู่หางจากถนสายหลัก 1 กม.ขึ้นไป เหมือนต่างประเทศก็มีทำกัน ไม่ใช่ทำแบบข้ามๆ ในปัจจุบัน สำหรับจุดไหนที่เหมาะสม ทล.จะต้องเป็นผู้พิจารณา

โดยให้พิจารณาบริเวณโดยรอบวงแหวนมอเตอร์เวย์สาย 9 (กาญจนาภิเษก บางปะอิน – บางพลี) ด้านหนึ่งคือเพื่อประกอบนโยบายการจำกัดเวลาใช้รถบรรทุก และพิจารณาจัดตั้งจุดพักรถใน 4 ทิศทางคือ เหนือ, ตะวันออก, ใต้ และตะวันตก เพื่อรองรับจำนวนรถบรรทุกที่วิ่งบนมอเตอร์เวย์สายนี้เฉลี่ย 50,000 คัน/วัน แต่ต้องไปดูรายละเอียดว่า ทั้ง 50,000 คันนี้มาในช่วงเวลาใดมากที่สุด ทั้งนี้ การให้นโยบายดังกล่าวไม่ใช่การรื้อแผนการทำที่พักรถเดิมของ ทล. เพียงแต่ช่วยอัพเดตผลการศึกษาเดิมให้ทันสมัยมากขึ้น

ส่วนการดำเนินงาน ทล.จะต้องไปประสานงานกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ขณะที่วิธีการ การให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่เป็นภาระกับงบประมาณ แต่ให้พิจารณาด้านต้นทุนของเอกชนด้วยว่าเป็นอย่างไร