“ศักดิ์สยาม” สั่ง สนข.รีวิวแผนลงทุน 20 ปีให้ทันสมัยผุดมาตรฐานด้านจราจรคุมเมกะโปรเจ็กต์

“ศักดิ์สยาม”เยือน สนข. ชี้แผนโลจิสติกส์ 4 มิติต้องทันสมัย สร้างความเข้าใจให้ประชาชน จี้ศึกษาระบบโดรน-UAV ช่วยบริหารจราจรให้ทันก่อนสงกรานต์ ผุด TIA คุมมาตรฐานจราจรโครงการใหญ่ ชง คจร.เคาะเงื่อนไขให้หน่วยงานกำกับใน 3-6  เดือน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้เน้นย้ำกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปหลายประเด็น ในเรื่องของการพัฒนาโลจิสติกส์ 4 มิติ (บก น้ำ อากาศ ราง) ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล ได้ให้ สนข.ไปอัพเดตข้อมูลให้ทันสมัย และทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ การกำหนดตัว KPI ต้องชัดเจน

และต้องอธิบายผลกระทบหรือผลตอบแทนต่างๆ ให้รูปธรรมชัดเจนกับประชาชน และต้องดูว่าในการใช้พื้นที่ก่อสร้างต่างๆ จะต้องทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น ไม่ใช่ได้แค่ค่าเวนคืนแล้วจบ ต้องบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนที่ถูกกระทบดีขึ้น

@กระจายลงทุนสู่ภูมิภาค

รวมถึงต้องกระจายการพัฒนาไปยังภูมิภาคต่างๆ ไม่ควรให้เกิดการกระจุกตัวในจุดเดิมๆ และต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาบริหารจัดการจราจร เช่น โดรน หรือเทคโนโลยี UAV (อากาศยานไร้คนขับ) มาช่วย ซึ่งจะเป็นทั้งพาหนะและเครื่องมือในการตรวจสอบและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จึงได้สั่งให้ สนข.เร่งศึกษาแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องแก้ปัญหาทุกวัน ประกอบกับใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ควรที่จะทำก่อนที่เทศกาลสงกรานต์จะมาถึง

“แม้ สนข.จะมีขนาดไม่ใหญ่ พนักงานน้อย แต่ภารกิจที่ทำใหญ่ ดังนั้น จะต้องกล้าที่จะขอรับการสนับสนุน กระทรวงเองไม่ว่าจะผมหรือท่านปลัด (ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ) พร้อมผลักดันทันที ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ผมให้กำลังใจ”

@ชง คจร.ตั้งมาตรฐาน TIA

สำหรับโครงการใหญ่ต่างๆ สนข.ได้รายงานว่า นอกจากรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ต่อไปจะต้องพิจารณา “มาตรฐานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านการจราจร” (EIA) แต่กำชับเพิ่มไปว่า ถ้าจะต้องทำจริงๆ ต้องมีความชัดเจนของข้อมูลที่จะศึกษาและกรอบเวลา แต่ยังไม่บัคับใช้เร็วๆ นี้ เพราะยังอยู่ระหว่างศึกษา และจะต้องเสนอต่อไปยังคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้ความเห็นชอบ คาดว่าภายใน 3-6 เดือนนี้

ซึ่งมาตรฐานนี้ไม่ได้ควบคุมแค่ถนนหรือราง แต่กินความถึงโครงการขนาดใหญ่ทุกโครงการที่จะมีผลกระทบกับการจราจร ส่วนในรายละเอียดต้องรอ สนข.ศึกษาก่อน ซึ่งได้กำชับไปแล้วว่า จะต้องศึกษาให้ดีและรอบคอบ ส่วนจะกดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ คิดว่าไม่ เพราะผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงประเด็นเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาอาจจะพิจารณาไม่สมบูรณ์ ก็ทำให้มันดีขึ้นและละเอียดรอบคอบขึ้น ส่วนมาตรฐาน TIA นี้จะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการหน่วยงานใด ขึ้นอยู่กับมติและความคิดเห็นเพิ่มเติมของ คจร. แต่หากให้กระทรวงเป็นผู้กำกับดูแล ก็มีเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมไว้แล้ว


ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ผอ.สนข. เสริมว่า เรื่องนี้ สนข.ศึกษามาประมาณ 1 ปีแล้ว ไม่ใช่การเพิ่มเงื่อนไข แต่เป็นการช่วยกันดูแลปัญหาจราจร ซึ่งเดิมมีประกอบใน EIA อยู่แล้ว เพียงแต่เอามาทำให้ครบมากขึ้น และเป็นการปิดช่องโหว่ที่ EIA ครอบคลุมไม่ถึง และยืนยันว่าไม่ทำให้เกิดภาระและเงื่อนไขในการอนุมัติโครงการ ตรงข้ามจะทำให้การอนุมัติโครงการต่างๆ เร็วขึ้นด้วย เพราะเป็นการทำคู่ขนาน EIA และทำให้สมบูรณ์มากขึ้น