ศาลปกครองกลาง สั่งห้ามกทม.สร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ศาลปกครอง

ศาลปกครองกลางมีคำสั่งห้ามมิให้กรุงเทพมหานครดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฉพาะในส่วนของแผนงานที่ 1 คือ ทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษา กรณีเครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวก ฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และให้คณะรัฐมนตรี ที่ 1 คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ 2 กระทรวงมหาดไทย ที่ 1 และกรุงเทพมหานคร ที่ 1 ผู้ถูกฟ้องคดี ยกเลิกการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งหมด

ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้ว เห็นว่า การก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็น 1 ในจำนวน 12 แผนงานในโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแผนงานดังกล่าวจะมีการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา กว้างประมาณ 6 – 10 เมตร ยาวตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร ล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อใช้เป็นทางสัญจรรองรับการเดินทางด้วยจักรยาน ชมทัศนียภาพ พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย น่าจะไม่ใช่อาคารหรือสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เจ้าท่าจะพึงอนุญาตได้ตามมาตรา 117 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖ ประกอบกับกฎกระทรวง ฉบับที่ 63 (พ.ศ.2537)ฯ และการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยามีผลกระทบต่อการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและมิใช่การสร้างสิ่งล่วงล้ำเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อการคมนาคมและการขนส่งทางน้ำตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วย

การผังเมือง อีกทั้งทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะเป็นอาคารตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ แต่ในการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้มีการแจ้งและส่งแผนผังบริเวณ แบบแปลนฯ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนทำการก่อสร้างตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 9 (พ.ศ.2528)ฯ

กรณีจึงมีมูลว่าการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้ดำเนินการเตรียมการที่จะดำเนินการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยามาเป็นลำดับ กรณีจึงถือได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ตั้งใจที่จะกระทำต่อไปซึ่งการละเมิดหรือการกระทำที่ถูกฟ้องร้อง และการห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ดำเนินการก่อสร้างทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยามิได้มีผลกระทบต่อการจัดทำบริการสาธารณะของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 จึงมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ดำเนินโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เฉพาะในส่วนของแผนงานที่ 1 คือ ทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น