“ศุภาลัย” พยัคฆ์ติดปีก คว้าที่ดินสถานทูตออสซี่ ผุด “อีโคมิกซ์ยูส” ระดับไฮเอนด์

จะเรียกว่า “ม้าย่อง” หรือ “ม้ามืด” ก็ได้ทั้งนั้น สำหรับเกมเหนือชั้นของ “ศุภาลัย” ที่ชนะประมูลที่ดินสถานทูตออสเตรเลียกว่า 7 ไร่ ริมถนนสาทรไปอย่างเงียบ ๆด้วยราคาเบาะ ๆ 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นตารางวาละ 1.45 ล้านบาท

ถือเป็น “ราคา” สูงพอควร แต่ไม่บ้าดีเดือดเหมือนทำเลวิทยุ เมื่อหลายปีก่อน

เหตุผลที่ “ศุภาลัย” ชนะใจเจ้าของที่ แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เป็นเรื่องสายสัมพันธ์มากกว่าเรื่องเงิน เพราะตระกูล “ตั้งมติธรรม” ได้ปูทางขยายการลงทุนที่ประเทศออสเตรเลียไว้แล้วตั้งแต่ปี 2559 โดยร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น 3 ราย ปักหมุด 4-6 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท จึงไม่เหนือความคาดหมายที่รัศมียักษ์อสังหาฯค่ายนี้จะกลบคู่แข่งจนถอดใจ คว้าที่ดินทำเลทองไปครองสมใจ

ความเหนือชั้นของ “ศุภาลัย” นอกจากสายสัมพันธ์แล้ว คือ สถานะการเงินที่แข็งแกร่งจากผลประกอบการครึ่งปี 2560 มีรายได้รวม 9,882.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,014.86 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 รองจาก “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” และแซงหน้า “พฤกษา” ที่รั้งอันดับ 3

“ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” บอสใหญ่ บมจ.ศุภาลัย เปิดเผยว่า ที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย เนื้อที่ 7 ไร่ 3 งาน82 ตารางวา ถนนสาทร ติดสวนพลู จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส มูลค่า 17,000-20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารชุดพักอาศัย อาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ ตั้งใจให้เป็น landmark ใหม่ย่านสาทร

“ที่ผืนนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 70 เมตร ลึก 160 เมตร ติดสาทรใต้ ถือเป็นย่านธุรกิจที่มีศักยภาพด้านการพัฒนาสูง ด้านหลังมีถนนเข้าออกซอยสวนพลูได้”

อีกทั้งเป็นพื้นที่ย่านพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น แวดล้อมด้วยแหล่งงานจำนวนมาก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ซึ่งเป็นทำเลที่คุ้นเคยและนิยมของชาวต่างชาติทุกอย่างจึงดู “ลงตัว” และสามารถเจาะลูกค้าตลาดบนได้ครบ

ล่าสุดเริ่มออกแบบโครงการแล้ว จะวางผังอาคารเป็น Green Design ที่อนุรักษ์พลังงาน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มีสวนขนาดใหญ่อยู่ภายใน โดยจะเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ของเดิมไว้ ให้เป็นอีโคมิกซ์ยูสโครงการแรกโดยนำนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาใช้กับงานออกแบบที่โครงการอื่นไม่มี

“การชนะประมูลที่ดินครั้งนี้ สร้างความมั่นใจให้ศุภาลัยมาก โดยเฉพาะอัตราการเติบโตด้านยอดขายและรายได้จะโตปีละ 15-20% ต่อไปเรื่อย ๆ แบบยั่งยืน”

ทำให้ “ศุภาลัย” มีสินค้าระดับไฮเอนด์ และมีโครงการหรูบนถนนสาทรเป็นครั้งแรก คาดว่าจะเปิดให้ลูกค้าจองโครงการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561″

ด้าน “ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” เอ็มดี บมจ.ศุภาลัย กล่าวว่า ช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.) มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 27,000 ล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 17 โครงการ มูลค่า 15,530 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกประเภทสินค้า ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม พร้อมเจาะตลาดในต่างจังหวัดต่อเนื่อง คือ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง อุบลราชธานี และนครราชสีมา

ส่วนกรุงเทพฯเพิ่งเปิด 3 คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ย่านธนบุรี ซึ่งมี 3 แบรนด์ 3 สไตล์ 3 ทำเลใกล้รถไฟฟ้า คือ ศุภาลัยพรีเมียร์ เจริญนคร, ศุภาลัยพรีเมียร์ สถานีแยกไฟฉาย และศุภาลัย ปาร์ค ตลาดพลู เท่ากับปีนี้เป็นปีทองของ “ศุภาลัย” และเป็นปีแห่งการก้าวกระโดด หรือพยัคฆ์ติดปีก !!!