ทศวรรษที่ 2 “ออริจิ้น” แตก 6 บริษัทลูกบุกตะลุยบ้าน-คอนโด ชูกลยุทธ์ open platform ร่วมทุนแลนด์ลอร์ดหาช่องลงทุนรับมือภาษีที่ดิน

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2563 ออริจิ้นก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 แห่งการก่อตั้งองค์กร วางตีมธุรกิจเป็นทศวรรษแห่งการปฏิรูป-The Decade of Transformation แตก 6 บริษัทลูกลงทุนใน 6 กิจการด้วยกัน ประกอบด้วย

1.บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด เจาะตลาดสมาร์ทคอนโด ภายใต้แบรนด์หลัก “ดิ ออริจิ้น” โดยมีนายเกรียงไกร กรีบงการ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

2.บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด พัฒนาคอนโดระดับลักเซอรี่ภายใต้แบรนด์ “ไนท์บริดจ์-พาร์ค ออริจิ้น” ราคา 1.5-2.5 แสนบาท/ตารางเมตร โดยมีนายศิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3.บริษัท บริทาเนีย จำกัด ดำเนินธุรกิจโครงการแนวราบแบรนด์บริทาเนีย เป็น very growth engine วางแผนเปิดตัวใหม่ 12,000 ล้านบาทในปีนี้ บนทำเลการแข่งขันน้อยและเซกเมนต์ที่แตกต่าง โดยมองว่าในเขตกรุงเทพฯ มีการแข่งขันสูงเกินไป จึงหันไปเจาะทำเลบลูโอเชียน เช่น บางปะกง บางบ่อ โดยมีนางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

4.บริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด พัฒนาโครงการในโซน EEC-ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก 3 จังหวัด (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) โดยมีนายอรุช ช่างทอง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

5.บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ลงทุนพอร์ตรายได้ประจำข-recurring income ทั้งโรงแรม ค้าปลีก ออฟฟิศบิลดิ้ง โดยเปิดบริการที่ทองหล่อกับศรีราชาแล้ว เน้นตลาด expat เจาะลูกค้าบิสสิเนสยูสกับคอร์ปอเรตยูส คาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ดี โดยมีนายปิติพงษ์ ไตรนุรักษ์ เป็นผู้บริหารหลัก

6.บริษัท พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชัน จำกัด ประกอบธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ ธุรกิจดาวรุ่งในกลุ่ม แทบไม่ใช้ทุนเพราะเป็นธุรกิจรายได้ประจำจากการให้บริการ service recurring income ปัจจุบันดูแล 52 โครงการทั้งในและนอกเครือออริจิ้นจำนวน 20,000 ครอบครัว โดยมีนายอรุช ช่างทอง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

โมเดลธุรกิจในปี 2563 เป็นต้นไปยังรวมถึงกลยุทธ์สร้างการเติบดต “Open for Growth, Open Platform” เปิดรับพันธมิตรธุรกิจรอบด้าน เพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจซึ่งกันและกัน ทั้งความร่วมมือในธุรกิจเดียวกันและความร่วมมือข้ามธุรกิจ

“ออริจิ้นอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรใหม่หลากหลายสัญชาติ อาทิ ร่วมทุนหรือ JV-joint venture, ร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน-Land Owner, ผู้พัฒนาเทคโนโลยีพร็อพเพอร์ตี้เทค-Service & Property Tech, กลุ่มซัพพลายเออร์ในวงการอสังหาฯ”

ออริจิ้นปรับโครงสร้างภายในองค์กร ตั้งเป้าภายใน 5 ปี บริษัทลูกทั้ง 5 บริษัทจะอยู่ในทำเนียบแถวหน้าของแต่ละเซกเมนต์ โดยแผนลงทุนปี 2563 วางแผนเปิดตัวใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท สัดส่วนแนวราบ 61% คอนโดฯ 39% แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวยืดหยุ่นและรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน เป้าเปิดตัวใหม่แบ่งเป็นคอนโดฯ 4 โครงการ ทั้งนี้ รอประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด-19 ถ้าหากยังไม่ใช่ไทมิ่งที่ดีก็พร้อมจะชะลอการเปิดตัวคอนโดฯ ออกไปเปิดตัวปีหน้าแทน ตั้งเป้ายอดขาย 21,500 ล้านบาท เป้ารายได้ 16,000 ล้านบาท

“ปี 2562 เราฝ่าวิกฤต LTV ปี 2563 เราอยู่กับวิกฤตโควิด-19 โดยผลประกอบการปี 2562 เปิดตัว 20 โครงการ 24,200 ล้านบาท ส่งมอบได้ 12,279 ล้านบาท ทำนิวไฮยอดพรีเซล 28,942 ล้านบาท คอนโดมิเนียมทำได้ 25,822 ล้านบาท เป็นแชมป์ยอดขายคอนโด 2 ปีซ้อน และบ้านจัดสรรอีก 3,120 ล้านบาท ตั้งแต่เราเริ่มเข้าตลาด มองเห็น growth vision ของตัวเอง ปรับตัวตลอดเวลา วันนี้ไม่ได้ผูกความสำเร็จกับตัวคนเดียวแต่กระจายความเสี่ยงการลงทุน” นายพีระพงศ์กล่าว