21 มิ.ย.นี้ ลุ้น ICAO เคาะคะแนนมาตรฐานการบินไทยพบข้อบกพร่องต้องแก้ไข 44 รายการ‬

“คมนาคม” ลุ้น ”ICAO” ประกาศผลมาตรฐานการบิน มิ.ย.นี้ “ศักดิ์สยาม” คาดได้ไม่ต่ำกว่า 55.7% เผยมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ต่อ 44 ข้อ ชี้ไม่จำเป็นต้องเร่งแก้ให้จบก่อนผลออก ทยอยทำได้ ด้าน “ผอ.การบินพลเรือน” เล็งเชิญ “FAA” ตรวจมาตรฐานต่อภายในปีนี้ เผยติดใจแค่เรื่องบุคลากรที่ทำการตรวจเครื่องบิน ไม่มีเหตุทำให้ติดธงแดง‬

‪นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันที่ 10 มี.ค.2563ได้ให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เข้ามารายงานความคืบหน้าการตรวจมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) ซึ่งได้เข้ามาตรวจที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 11 -21 ก.พ.ที่ผ่านมา เบื้องต้น คาดว่าน่าจะผ่านการประเมิน แต่ยังอยู่ระหว่างสรุปคะแนนอย่างเป็นทางการ‬

พบบกพร่อง 44 รายการ‬

การเข้ามาตรวจครั้งนี้ ICAO มีประเด็นสอบถามทั้งหมด 497 รายการ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีประเด็นคำถาม 480 รายการ โดยพบข้อบกพร่อง 44 รายการ น้อยกว่าปี 2560ที่มีข้อบกพร่อง 49 รายการ โดยการตรวจสอบมีขอบเขต 9 เรื่อง ‬

‪ประกอบด้วย 1. การกำกับดูแลและรักษาระบบความปลอดภัยของประเทศ 2. การฝึกอบรมบุคลากรให้เป็นไปตามมาตรฐานของICAO 3. การควบคุมคุณภาพด้านต่างๆ 4. มาตรฐานของหลักปฏิบัติต่างๆในสนามบิน 5. การรักษาความปลอดภัยของอากาศยานและระหว่างทำการบิน ‬

6. การรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารและสัมภาระ 7. การรักษาความปลอดภัยสินค้า ครัวการบิน และคาร์โก 8. การตอบสนองของการกระทำที่แทรกแซงที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือ การก่อการร้าย และ 9. การรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือน ซึ่งสิ่งที่ ICAO เน้นย้ำให้ตรวจสอบเป็นพิเศษคือ เรื่อง การรักษาความปลอดภัยของสินค้า ครัวการบิน และคาร์โก‬

รู้ผล 21 มิ.ย.นี้‬

สำหรับผลการตรวจ ICAO ให้ทำการแก้ไข 44 รายการที่ยังบกพร่องอยู่ โดยมีไทม์ไลน์คือ ในอีก 30 วัน (21 เม.ย.) ICAO จะแจ้งผลคะแนนกลับมา และให้เวลาอีก 30 วัน (21 พ.ค.) เพื่อทำคำชี้แจงกลับมา จากนั้นอีก 30 วัน (21 มิ.ย.) ก็จะแจ้งผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการต่อไป กระทรวงก็คาดว่าน่าจะได้รับการประเมิน “ประสิทธิผลของการนำมาตรฐาน ICAO มาบังคับใช้ในประเทศ ” ไม่ต่ำกว่าปี 2560 ที่ได้คะแนนที่ 55.7%‬

ไม่รีบแก้ข้อบกพร่อง 44 ข้อ‬

‪ส่วนข้อบกพร่อง 44 รายการ จะทยอยแก้ไขไป ไม่จำเป็นจะต้องแก้ไขให้ทันก่อนที่ ICAO จะส่งผลกลับมา เพราะบางรายการต้องใช้เวลาแก้ไข เช่น การนำสิ่งเทียมอาวุธเข้าไปเพื่อทดสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยได้ติงมาว่า กฎหมายของไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับและคุ้มครองผู้ที่ดำเนินการทดสอบ ‬

จึงต้องมีการออกระเบียบกฎหมายรองรับไว้ เพื่อคุ้มครองผู้เข้าไปทำการทดสอบ หรือการออกคู่มือในประเด็นต่างๆให้ชัดเจน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คาดว่า กพท.และสนามบินต่างๆจะสามารถพัฒนาระบบขึ้นมาให้เป็นไปตามสมาตรฐานของ ICAO‬

เชิญ ”การบินสหรัฐฯ” ตรวจต่อปีนี้‬

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวว่า ส่วนการเข้ามาตรวจขององค์การบริหารการบินแห่งชาติอเมริกา (FAA) คาดว่าจะเข้ามาภายหลังการตรวจสอบของ ICAO จบลง จะเป็นการเข้ามาตรวจในประเด็นความปลอดภัย (Safety) เป็นหลัก ‬

โดยจะเชิญ FAA มาตรวจให้ได้ภายในปีนี้ ผลกระทบของการตรวจโดย FAA จะมีผลเพียงข้อเดียวคือ การเดินทางแบบบินตรงไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ถ้าหากประเทศไทยต้องการจะบินเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องผ่านมาตรฐานของ FAA ก่อน‬

ไม่ติดธงแดง‬

‪ซึ่งประเด็นที่จะตรวจเหลืออีก 20 ข้อ คาดว่าจะดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ และจะเชิญ FAA มาตรวจสอบในเดือน มิ.ย.นี้ แต่ไม่มีเหตุที่ทำให้ติดธงแดงอีกแล้ว เป็นเพียงการติดขัดในประเด็นเล็กๆน้อยๆ คือเรื่องบุคลากรตรวจสอบนักบิน ‬

ทาง FAA มีข้อสังเกตว่า สัดส่วนของบุคลากรที่มีกับเครื่องบินที่ต้องตรวจสอบยังห่างกันมาก เพราะเครื่องบินที่ต้องทำการตรวจสอบมีเป็นจำนวนมาก แต่บุคลากรที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบมีไม่พอ ทางแก้ปัญหาคือการใช้วิธีจ้างบุคคลภายนอก (Outsource) โดยจะจ้างนักบินของสายการบินต่างๆมาช่วยตรวจสอบ และได้รายงานให้ FAA รับทราบแล้ว‬