ภารกิจรักษ์โลกภายใต้ธีมคิดจากหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน-circular economy กลายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแรง
“สยามรัฐ สุทธานุกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี คีย์แมนเบื้องหลังการผลักดันถุงปูนจนกระทั่งกลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์นวัตกรรม “คิด-จาก-ถุง”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
นับเป็นคอนเซ็ปต์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของเอสซีจี องค์กรร้อยกว่าปีที่เติบโตมาจากธุรกิจขายปูนและวัสดุก่อสร้าง ที่สำคัญ ไม่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจสินค้าแฟชั่นแต่อย่างใด และพวกเขาประสบความสำเร็จในการนำวัสดุถุงปูนมาผลิตกระเป๋าจนครองใจผู้ใช้คนรุ่นใหม่
วันนี้ คิด-จาก-ถุง กำลังขยายผลไปสู่การมองหาคนคอเดียวกัน มาร่วมลงทุนด้วยกัน
“เราเติบโตมาจากธุรกิจการผลิตและขายปูนมากว่า 100 ปี แต่วันนี้เราขยายโอกาสด้วยการ upcycle ถุงปูนที่รอทำลายให้เป็นสินค้าแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์รักษ์โลก ตามหลัก circular economy และนำเสนอโมเดลธุรกิจใหม่ที่มองหาเพื่อนร่วมธุรกิจ อยากชวนมาเป็นพาร์ตเนอร์โตไปด้วยกัน”
ทั้งนี้ ถุงบรรจุปูนซีเมนต์ที่รอทำลายในโรงงานกลายเป็นสินค้าสุดแนว ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้หลากหลายไอเท็ม จุดเริ่มต้นจากหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน หนึ่งในแนวทางการทำงานของเอสซีจีเพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้มีแนวคิดว่าถุงปูนที่รอการทำลายเหล่านี้จะต้องไม่กลายเป็นขยะ จึงต้องคิดต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ถุงปูน
การกระโดดเข้ามาบนถนนแฟชั่นทำให้ค้นพบคำตอบที่สร้างโอกาสมหาศาล แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่สินค้ากลุ่มแฟชั่นกลับเติบโต และแม้ว่ามีราคาสูงแต่ก็ยังมีดีมานด์จากกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ หากเป็นแบรนด์ที่ถูกใจ ตอบโจทย์เรื่องดีไซน์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
เอสซีจีถอดบทเรียนความสำเร็จ “how to ทำอย่างไรให้อยู่รอด” ด้วย 3 หลักคิด ได้แก่ 1.รู้จักลูกค้า 2.ไม่เก่งอย่าทำเอง การหาพาร์ตเนอร์และพันธมิตรเก่ง ๆ มาเสริมทัพธุรกิจจะนำไปสู่สินค้าข้ามเซ็กเมนต์ที่ธุรกิจผลิตได้ และ 3.อย่าถอย และต้องหมุนเร็ว
สิ่งสำคัญที่เอสซีจีเริ่มทำเพื่อรุกตลาดที่ไม่มีความคุ้นเคย คือ การหาพันธมิตรธุรกิจเพื่อร่วมกันคิด ออกแบบ พัฒนาสินค้า และร่วมกันทำการตลาด ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มลูกค้าที่มองหางานดีไซน์ที่มีลักษณะเฉพาะตัว (exclusive) มีจำนวนจำกัด (limited edition) โดยร่วมกับดีไซเนอร์ไทยมีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง ISSUE, KLOSET & ETCETERA, URFACE
ล่าสุดคือ Renim Project ที่ทำให้เอสซีจีได้รับโอกาสให้ไปนำเสนอผลงานที่งาน LA Fashion Week 2.กลุ่มลูกค้าทั่วไป (mass) ต้องการสินค้าที่เน้นการใช้งาน สามารถหาซื้อและเป็นเจ้าของได้ง่าย
หลังจากเปิดตัวแบรนด์กระเป๋าถุงปูน “คิด-จาก-ถุง” ได้ไม่นาน มียอดขายเติบโตเกินคาด แน่นอนว่าเตรียมเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
