นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกนะทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าจากการติดตามความคืบหน้าของการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ในส่วนที่เป็นงบดำเนินการปกติ ไม่เกี่ยวกับงบของรัฐวิสาหกิจจำนวน 12 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวง กรมเจ้าท่า (จท.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
เร่งเบิกจ่ายงบ 2 แสนล้าน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
ทั้ง 13 หน่วยงาน ได้รับงบประมาณปกติจำนวน 208,317 ล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 37,792 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของงบประมาณ และเป็นงบลงทุน 170,525 ล้านบาท คิดเป็น 82% ของงบประมาณทั้งหมด และหากจำแนกงบลงทุนออกมา จะพบว่าเป็นงบผูกพัน 1 ปี จำนวน 100,442 ล้านบาท, งบผูกพันเดิม 52,222 ล้านบาท และเป็นงบผูกพันใหม่ 17,961 ล้านบาท
“ได้มอบนโยบายผู้บริหารทั้ง 13 แห่งเนื่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาหลักๆ 3 เรื่องด้วยกันคือ 1. การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 2.ภัยแล้ง และ 3.สงครามเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผลกระทบมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องบริหารงบประมาณในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้“
ไล่ไทม์ไลน์เบิกรายเดือน
โดยเป้าหมายในการเบิกจ่ายในเดือนมี.ค.จะต้องเบิกจ่ายให้ได้ 40% เม.ย. 48% พ.ค. 57% มิ.ย. 65% ก.ค. 77% ส.ค. 88% และก.ย. 100% ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนแผนการเบิกจ่ายงบประมาณใหม่ จากเดิมช่วงเม.ย.-พ.ค. จะเป็นช่วงที่ประกาศประกวดราคาโครงการต่างๆ และช่วงต้นเดือน พ.ค.จะเป็นช่วงลงนาม โดยได้เร่งรัดให้ทั้ง 13 หน่วยงานดำเนินการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
1.ในเดือนพ.ค. จะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายรวมทุกหน่วยให้ได้ 42% หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 87,493 ล้านบาท 2. เดือนมิ.ย.จะต้องเร่งรัดการเบิกให้ได้ 66% คิดเป็นจำนวนเงิน 137,487 ล้านบาท 3.เดือนก.ค.จะต้องเร่งรัดเบิกจ่ายให้ได้ 82%คิดเป็นจำนวนเงิน 170,819 ล้านบาท 4. เดือนส.ค. จะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ 92% คิดเป็นจำนวนเงิน 191,657 ล้านบาท
ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในเดือนเม.ย.นี้ พอดี ก่อนที่ในเดือนก.ย.จะเบิกจ่ายได้ 100%
เบิกจ่ายไม่เข้าเป้ามีผลต่อ KPI
“ทุกหน่วยงานยืนยันแล้วว่า สามารถดำเนินการตามที่กำหนดเป้าหมายได้ และจะนำประเด็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นตัวชี้วัด (KPI) ในการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงปลายปีนี้ด้วย”
โดยเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน ขอให้ทุกหน่วยงานทำข้อมูลแจ้งเป็นรายสัปดาห์มานำเสนอด้วย เพื่อให้เห็นว่าสามารถดำเนินการตามเป้าหมายของงานได้หรือไม่ ทั้งนี้ในวันศุกร์นี้ (3 เม.ย.) จะมีการประชุมเพื่อติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐวิสาหกิจอีกครั้งหนึ่ง
หั่นงบผูกพันธ์ช่วยโควิด
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่มีการหารือกันคือ จากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำริถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการแก้ไขปัญการการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้แต่ละหน่วยงานประสานงานกับสำนักงบประมาณ เพื่อปรับแผนการใช้งบประมาณใหม่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมเห็นว่า จะไม่ปรับลดในส่วนของโครงการลงทุนต่างๆ แต่จะปรับลดในส่วนของการผูกพันงบประมาณแทน ซึ่งทุกหน่วยงานได้รับทราบแล้ว
