สำรวจไตรมาสแรก 9 รับเหมา “รายได้-กำไร” ผันผวนยกแผง

คอลัมน์ ดาต้าเบส

ภาวะเศรษฐกิจไทยน่าจะซบ-ซมพิษไวรัสโควิด-19 ไปตลอดปี 2563 ล่าสุด “สศช.-สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ” ออกมาเผยสถานการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ของปี ติดลบ 1.8% ส่งผลให้การคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจของปีนี้ทั้งปีอาจจะติดลบ 5-6% เพราะมีสารพัดปัจจัยที่รุมเร้า ทั้งเศรษฐกิจ-การค้าโลก รายได้ภาคท่องเที่ยวต่างชาติที่หดตัว การระบาดโควิด-19 และปัญหาภัยแล้ง

ขณะที่ภาครัฐทุ่มสรรพกำลัง-งบประมาณไปกับการแก้ปัญหาโควิด อาจจะส่งผลเอฟเฟ็กต์ต่อโครงการก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาทำให้การลงทุนของรัฐลดลง 9.3% จากความล่าช้าของการประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เป็นหลัก แต่ไม่มีผลเป็นนัยสำคัญต่อผลประกอบการผู้รับเหมา โดยเฉพาะบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ITD งบฯไม่ออก-STEC พุ่ง

อัพเดตความเคลื่อนไหวล่าสุด “บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์” เบอร์หนึ่งของวงการ ขอเลื่อนส่งงบการเงินของไตรมาส 1 ออกไปเป็นวันที่ 14 ส.ค.นี้แทน หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะบริษัทลูกที่ไปลงทุนในประเทศอินเดีย และบังกลาเทศ ถูกรัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล-สอบทานงบการเงินของผู้สอบบัญชี

ขณะที่ “บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี มีรายได้รวม 9,351.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1,795.73 ล้านบาท รายได้หลักมาจากสัญญาก่อสร้าง 9,308.56 ล้านบาท ค่าเช่า จำนวน 19.42 ล้านบาท และดอกเบี้ย 16.82 ล้านบาท ทำให้มีกำไรขั้นต้นที่ 397.65 ล้านบาท คิดเป็นกำไรขั้นต้น 4.26%

ฝั่ง “บมจ.ช.การช่าง” ไตรมาส 1 ของปีนี้ มีรายได้รวม 5,600.50 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2,180.35 ล้านบาท หลังส่งมอบงานรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นแล้วเสร็จ ประกอบกับโครงการในมืออยู่ในช่วงปลายของโครงการ เช่น งานบริหารโครงการรวมถึงเป็นผู้จัดหาและติดตั้งอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ส่วนโครงการใหม่อยู่ในช่วงเริ่มต้นโครงการยังไม่ได้รับรู้รายได้ เช่น ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก สัญญาที่ 4 งานสะพานขึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วงเงิน 6,636 ล้านบาท และเมื่อโฟกัสไปถึงผลกำไร-ขาดทุน ในไตรมาสที่ 1 บริษัทขาดทุน 104.20 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 1 ปีที่แล้ว มีกำไร 351.51 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากสัญญาก่อสร้างและการขายวัสดุลดลง รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงด้วย

ยูนิคฯร่วง-เนาวรัตน์ฯ-ซินเทคฯโต

ด้าน “บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น” มีรายได้รวม 2,647.2 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 327.4 ล้านบาท ขณะที่ผลกำไรอยู่ที่ 156.7 ล้านบาท ลดลง 23.4 ล้านบาท

“บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ” มีรายได้รวม 2,410.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 215.1 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจคอนกรีตและอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนผลกำไรอยู่ที่ 20.82 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ขาดทุน 27.06 ล้านบาท

“บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น” มีรายได้รวม 2,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 109 ล้านบาท และมีผลกำไรที่ 91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 2 ล้านบาท

“บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย)” มีรายได้รวม 1,882.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 252.8 ล้านบาท มีผลกำไร 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 3.8 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการขายเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง

เพาเวอร์ไลน์ฯ-พรีบิลท์อ่วม

“บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง” มีรายได้รวม 1,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 1,420 ล้านบาท หรือ 25.4% เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของงานก่อสร้างโครงการในมือมากขึ้น รวมถึงรายได้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างด้วย แต่ในไตรมาสนี้ บริษัทประสบภาวะขาดทุน 74..4 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีกำไร 75.89 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในการบริหารที่สูงขึ้น

“บมจ.พรีบิลท์” กับรายได้รวม 993.27 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7.49 ล้านบาท เป็นการลดลงในส่วนงานผลิตและจำหน่ายแผ่นพื้นประมาณ 28.72 ล้านบาท ในขณะส่วนงานรับเหมามียอดรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 21.24 ล้านบาท มีกำไรอยู่ที่ 40.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 59.05 ล้านบาท เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวและการระบาดโควิด-19

ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างต่อเนื่อง และการชะลอเปิดโครงการก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้น รวมถึงการรับงานของผู้ประกอบการมีความเข้มงวดมากขึ้นด้วย

ปิดท้าย เจ้าพ่อเสาเข็ม “บมจ.ซีฟโก้”ปิดรายได้ไตรมาส 1 ที่ 868.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 18.19 ล้านบาท หรือ 2.14% และผลกำไรที่ 94.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 68.74 ล้านบาท