“อัศวิน” ฝ่าแดดเปรี้ยงลุยตรวจระบบระบายน้ำ รับมือสถานการณ์ฝนปีนี้

วันที่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe Jacking) ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ระบบระบายน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแยกรัชโยธิน-แยกเกษตร

โครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร และโครงการก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) บริเวณปากซอยสุทธิพร 2 เขตดินแดง

@กดปุ่มเดินเครื่องระบบ Pipe Jacking

เนื่องจากถนนพหลโยธิน บริเวณโดยรอบแยกเกษตรศาสตร์ มีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค อาทิ อุโมงค์ทางลอด สะพานข้ามแยก และระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ประสิทธิภาพในการระบายน้ำบริเวณดังกล่าวลดลง เมื่อฝนตกในปริมาณมากจึงประสบปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง

ทางสำนักการระบายน้ำ จึงดำเนินโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร เริ่มต้นสัญญาวันที่ 10 ก.พ.2561 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 7 ก.ย.2562 ระยะเวลาก่อสร้าง 575 วัน

ประกอบด้วย ก่อสร้างท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.80 ม. ความยาว 1,325 ม. ด้วยวิธีดันท่อ ก่อสร้างท่อลอดเหล็กเหนียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,200 มม. ความยาว 76 ม. ด้วยวิธีดันท่อ ก่อสร้างท่อลอดเหล็กเหนียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1,800 มม. ความยาว 206 ม. ก่อสร้างบ่อสูบน้ำ ค.ส.ล. จำนวน 1 บ่อ ก่อสร้างบ่อดันท่อ จำนวน 8 บ่อ ก่อสร้างบ่อรับ จำนวน 2 บ่อ งานรางระบายน้ำ ค.ส.ล. รูปตัวยู ความยาว 80 ม.

พร้อมทั้งก่อสร้างบ่อสูบน้ำบริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ ตอนลงคลองลาดพร้าว กำลังสูบ 4.50 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำถนนพหลโยธิน บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง บรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในการสัญจรและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว

@จี้ รฟม.เร่งแก้ไขระบบระบายน้ำแนวสายสีเขียว

ในส่วนของระบบระบายน้ำที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแยกรัชโยธิน-แยกเกษตร เนื่องจากช่องรับน้ำฝนและฝาท่อระบายน้ำถูกทับจากการปูผิวจราจรแอสฟัลต์ทำให้มีขนาดเล็กลง ประกอบกับบ่อพักในผิวจราจรมีเศษวัสดุก่อสร้างตกหล่นอยู่ในบ่อพักเป็นจำนวนมาก

โดยแนวทางการแก้ไขได้ประสานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการเปิดช่องรับน้ำฝน ยกขอบบ่อพักท่อระบายน้ำ เก็บเศษวัสดุภายในบ่อพัก ก่อสร้างรางระบายน้ำรูปตัวยู เปิดฝาบ่อพักที่โดนปิดทับ ทั้งนี้ได้มอบหมายสำนักการโยธาเร่งติดตามการดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

@เพิ่มกำลังสถานีสูบน้ำแนว ถ.วิภาวดีรังสิต

สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากถนนวิภาวดีรังสิตเดิมอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมทางหลวง ต่อมาเมื่อปี 2542 กรมทางหลวงได้มอบให้ กทม.ดูแลรับผิดชอบระบบระบายน้ำบริเวณคูน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตทั้ง 2 ฝั่ง

ทั้งนี้สถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตได้เปิดใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน อัตรากำลังสูบน้ำที่มีอยู่เดิม 59 ลบ.ม./วินาที ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำนักการระบายน้ำจึงดำเนินโครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 15 สถานี โดยดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จ 9 สถานี อัตรากำลังสูบน้ำรวม 90 ลบ.ม./วินาที

สำหรับสถานีสูบน้ำที่อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุง ได้แก่ สถานีสูบน้ำคลองบางซื่อขาเข้าฝั่งใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.นี้ โดยจะเพิ่มอัตรากำลังสูบน้ำเป็น 92 ลบ.ม./วินาที เมื่อโครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตแล้วเสร็จทั้งหมด 15 สถานี จะเพิ่มอัตรากำลังสูบน้ำจาก 92 ลบ.ม./วินาที เป็น 110 ลบ.ม./วินาที

สามารถระบายน้ำลงสู่คลองบางซื่อ คลองลาดยาว คลองบางเขน คลองวัดหลักสี่ ระบายออกสู่คลองเปรมประชากร และอีกส่วนหนึ่งระบายออกคลองลาดพร้าว ตลอดจนช่วยรองรับน้ำบริเวณคูน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกเข้าสู่ระบบอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5.00 ม. ความยาว 6.40 กม. กำลังสูบ 60 ลบ.ม./วินาที ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดเครื่องยนต์ดีเซลและแบบไฮดรอลิคเสริม 10 เครื่อง กำลังสูบน้ำรวม 20 ลบ.ม./วินาที ตามสถานีสูบน้ำตลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิต และติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 แห่ง รวมถึงประสานกรมทางหลวงดำเนินการขุดลอกคูน้ำตลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิตทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเปิดทางน้ำไหลเข้าสู่ระบบสถานีสูบน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฝนในปีนี้

@วางบ่อหน่วงน้ำรับน้ำฝน ถ.อโศก-ดินแดง

ในส่วนของถนนอโศก-ดินแดง ช่วงตั้งแต่ซอยตระกูลสุขถึงซอยขวัญพัฒนา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ เมื่อเกิดฝนตกในปริมาณมากทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว

อีกทั้งส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ผ่านมาสำนักการระบายน้ำได้แก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน โดยก่อสร้างรางระบายน้ำ (Gutter) บริเวณปากซอยสุทธิพร 2 เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังบริเวณถนนอโศก-ดินแดง

สำหรับในระยะยาวได้ดำเนินงานก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน ปากซอยสุทธิพร 2 ถนนอโศก-ดินแดง เขตดินแดง เริ่มต้นสัญญาวันที่ 12 ธ.ค.61 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 5 ส.ค.62 ระยะเวลาก่อสร้าง 237 วัน

ประกอบด้วย ก่อสร้างบ่อรับน้ำใต้ดินและติดตั้งระบบสูบน้ำขนาด 1.25 ลบ.ม./วินาที พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 แห่ง ก่อสร้างท่อเหล็กขนส่งน้ำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 ม. ความยาว 400 ม. สร้างรางระบายน้ำ ค.ส.ล. ความยาว 360 ม. ปัจจุบันบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) ปากซอยสุทธิพร 2 ดำเนินการแล้วเสร็จ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ รวมถึงป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังถนนอโศก-ดินแดง ช่วงจากสี่แยกประชาสงเคราะห์ถึงซอยขวัญพัฒนาและพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับรูปแบบการทำงานของบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน จะเริ่มจากการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ไว้ใต้ดิน เพื่อรองรับน้ำฝนในช่วงเวลาที่ฝนตกเข้ามากักเก็บไว้ที่บ่อเก็บน้ำ โดยการเชื่อมท่อระบายน้ำเข้ากับท่อระบายน้ำเดิมหรืออาจจะวางท่อระบายน้ำใหม่จากบ่อเก็บน้ำไปยังคลองโดยตรง พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เมื่อฝนหยุดตกและระดับน้ำในคลองลดต่ำลง จะระบายน้ำออกจากบ่อเก็บน้ำลงสู่คลองในพื้นที่

รวมถึงสามารถเร่งระบายน้ำจากบ่อเก็บน้ำ เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและปริมาณน้ำเกินความจุของบ่อเก็บน้ำ กล่าวคือบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) สามารถใช้เป็นทั้งแก้มลิงรับน้ำฝน และใช้เป็นบ่อสูบน้ำกรณีที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

“กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศว่าฤดูฝนในปีนี้ จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.63 เป็นต้นไป วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจระบบระบายน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง” ผู้ว่าฯอัศวินกล่าว