OPENBOX แนะ 5 โซลูชัน Next Normal ออกแบบเมืองอนาคตรับโควิด

นายรติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ CEO และผู้ก่อตั้ง OPENBOX GROUP บริษัทสถาปนิกที่มีผลงานออกแบบตึกสูง โรงงานไฟฟ้าพลังงานทดแทน และอยู่อาศัยประเภท Complex Residence ทั้งในและต่างประเทศ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 วิถีชีวิตในแบบปกติกำลังจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่และกลายเป็นวิถีชีวิตปกติของเรา หรือ The Next Normal ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเมืองและชีวิตผู้คน สู่โซลูชั่นของการพัฒนาเมืองแห่งอนาคต (City of Future) ซึ่งตอบโจทย์วิถีการดำเนินชีวิตใหม่ซึ่งถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี (Digital Disruption) และสอดคล้องกับแนวคิดในกระแสโลกยุคใหม่ คือการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

มุมมองเกี่ยวกับเมืองแห่งอนาคตเริ่มตั้งแต่การจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ, การออกแบบอาคาร สถานที่หรือเมืองให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย, การให้ความสำคัญกับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว และการใช้พลังงานร่วมกันอย่างประสิทธิภาพ, การขนส่ง และนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย

ทั้งนี้ อธิบายโซลูชันการออกแบบเมืองภายใต้แนวคิด S-E-N-S-E สำหรับ City of the Future เมืองแห่งอนาคตที่ยั่งยืน ดังนี้

1. S – Space Efficiency การจัดการพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นแนวคิดการจัดการพื้นที่ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้แก่ผู้อยู่อาศัย

โดยหนึ่งในโซลูชั่นที่จะเข้ามาตอบโจทย์แนวคิดนี้ก็คืออาคารสูง เช่น คอนโดมิเนียม ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาการใช้พื้นที่และทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพ กล่าวคือหากเปลี่ยนการใช้พื้นที่ในแนวราบแบบกระจายตัวมารวบเป็นอาคารสูง จะทำให้มีพื้นที่เหลือในการใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการมีพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ในเชิงเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน อาคารสูงยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคโควิดที่ผู้อยู่อาศัยจะแยกกันอยู่คนละชั้น ได้รับแสงแดดที่เพียงพอ และไม่มีปัญหาเรื่องการใช้อากาศร่วมกัน ให้ความรู้สึกปลอดภัยห่างไกลโควิดได้มากกว่าบ้านที่เป็นแนวราบ

2. Energy Sharing ปัจจุบันจะพบว่า คอนโดมิเนียมมีการใช้พลังงานสูงสุดในช่วงเวลากลางคืน ขณะที่อาคารสำนักงานใช้พลังงานสูงสุดในช่วงเวลากลางวันซึ่งแต่ละอาคารติดตั้งอุปกรณ์การจัดการพลังงานของตนเอง จึงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ มีพลังงานเหลือเกินความต้องการ

มีแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า Energy Blockchain หรือ Digital Energy กรณีมีพลังงานเหลือก็จะนำไปขายให้แก่ตึกที่อยู่ใกล้เคียงและใช้ในแบบเหลื่อมเวลากัน หรือแนวคิด District Cooling ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ โดยสามารถส่งความเย็นไปยังสถานที่อื่น ๆ ใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคารสำนักงาน  ห้าง และ คอนโดมิเนียม ถือเป็นแนวคิดการลดใช้พลังงาน ลดการใช้อุปกรณ์ที่เกินความจำเป็น

3. N – Nature & Green การให้ความสำคัญกับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียว เช่น แนวคิดการขยายพื้นที่สวนสาธารณะขนาดย่อม (pocket park) ให้กระจายตัวมากขึ้นในเขตเมือง และให้เพียงพอกับระยะคนเดิน ซึ่งประเทศญี่ปุ่นถือเป็นเจ้าแห่ง pocket park แห่งหนึ่งของโลก หรือในประเทศสิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา

และแนวคิด park network สวนสาธารณะหลาย ๆ แห่งที่ผู้คนสามารถเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยาน เชื่อมถึงกันได้โดยไม่ต้องผ่านหรือใช้ถนน

4. S – Synchronization of Multi-Functions การออกแบบอาคาร สถานที่ หรือเมือง ให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในสถานการณ์ที่หลากหลายหรือมิกซ์ยูส เช่น คอนโดมิเนียม ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อโควิด หลายแห่งกำหนดการใช้ลิฟท์แบบจำกัด หรือจำกัดจำนวนคนใช้ลิฟท์

ในอนาคตการออกแบบจะสามารถเข้ามาเพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่าง ๆ ให้ทุกชีวิตในยุคโควิดมีความสบายใจมากขึ้น อาทิ ล็อกเกอร์รับ-ส่งอาหาร หรือสิ่งของต่าง ๆ โดยผู้รับและผู้ส่งไม่ต้องเจอหน้ากัน

และการออกแบบพื้นที่ space in space ภายในพื้นที่ส่วนกลางโดยใช้อุปกรณ์เพื่อแยกความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อไม่เกิดความระแวงในการใช้พื้นที่ส่วนรวม

ส่วนในระดับเมือง มีตัวอย่างประเทศโมนาโค, สิงคโปร์ ที่จัดโหมดเมืองสำหรับการแข่งรถ สร้างรายได้ให้กับประเทศได้อีกมาก ขณะที่ประเทศไทยเอง มีโหมดเรื่องการป้องกันน้ำท่วม แต่ยังสามารถออกแบบเมืองให้ปรับเปลี่ยนได้ตามโหมดอื่น ๆ เช่น โหมดการเฝ้าระวังเชื้อโควิด หรือโหมดการจัดบิ๊กอีเว้นท์ เช่นวันสงกรานต์ เป็นต้น

5. E – Explorations of Innovations การคิดค้น พัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัยยกระดับคุณภาพชีวิต โดยการออกแบบบ้าน คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน ตอบโจทย์กับชีวิต New Normal เช่น ลิฟท์

ปัจจุบันคอนโดมิเนียมหลายแห่งแยกใช้ลิฟท์ส่วนตัว (private lift) มากขึ้น นอกจากเป็นโซลูชั่นด้านความปลอดภัยในยุคโควิดแล้ว ยังตอบโจทย์การซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนได้ เพราะลิฟท์ที่แยกออกมาต่างหาก จะไม่เป็นการรบกวนกับเจ้าของห้องจริงที่เป็นผู้อาศัย

ปัจจุบันยังพบด้วยว่ามีการคิดค้นลิฟท์ในรูปแบบต่าง ๆ ไว้มากมาย เช่น ลิฟท์ที่เคลื่อนตัวในแนวราบ (double deck lift) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ในยุคโควิดได้เป็นอย่างดี อาทิ ประตูสองชั้น ที่ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยในการคัดกรองคนเข้าออก และอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ, การออกแบบพื้นที่ในสำนักงาน หรือ โค-เวิร์คกิ้ง สเปซ ที่ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรค และ Smog-eating surface สีหรือพื้นผิวที่สามารถดูดซับเชื้อโรค ฝุ่นละลองพิษต่าง ๆ เป็นต้น

รวมถึงนวัตกรรมด้าน Transportation หรือการขนส่ง โดยเมืองแห่งอนาคตจะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นหากมีการจัดการด้านการขนส่งอย่างเหมาะสม เช่น Hyperloop, drone transport เป็นต้น

“โซลูชันเหล่านี้เป็นแนวคิดการออกแบบโดยมีคนเป็นศูนย์กลาง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน ทั้งด้านสุขภาพและจิตใจ สำคัญที่สุดคือเมืองแห่งอนาคตต้องตอบโจทย์ได้ครบถ้วนทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นเมืองที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง”