ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลัง กทม.เปิดบริการทดลองเดินรถ Shuttle Bus เพื่อเพิ่มทางเลือกและให้บริการเสริมในการนำส่งผู้โดยสารจากสถานที่สำคัญเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลัก (ระบบราง) “BMA FEEDER” เป็นการบรรเทาปัญหาการจราจร และลดปริมาณมลพิษทางอากาศ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
โดยในระยะแรกกำหนดการเดินรถ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทาง B1 สถานีขนส่งสายใต้-BTS บางหว้า เปิดทดลองให้บริการ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 จำนวนผู้โดยสารรวม 5,811 เที่ยวคน (85 วัน) เฉลี่ยวันละ 68 เที่ยวคน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
2.เส้นทาง B2 ดินแดง- BTS สนามเป้า เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 จำนวนผู้โดยสารรวม 2,517 เที่ยวคน (71 วัน) เฉลี่ยวันละ 35 เที่ยวคน
และ 3.เส้นทาง B3 ชุมชนเคหะร่มเกล้า-ARL ลาดกระบัง เปิดทดลองให้บริการเมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 จำนวนผู้โดยสารรวม 5,763 เที่ยวคน (78 วัน) เฉลี่ยวันละ 73 เที่ยวคน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มิ.ย.63)
โดยให้บริการฟรี 6 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. โดยในเวลาเร่งด่วนระหว่างเวลา 05.00-09.00 น. และเวลา 15.00-19.00 น. รถจะออกทุก 15 นาที ส่วนในช่วงเวลาปกติ เวลา 09.00-15.00 น. และเวลา 19.00-21.00 น. รถจะออกทุก 30 นาที
จากสถิติจำนวนผู้โดยสารของเส้นทางดินแดง- BTS สนามเป้า พบว่ามีผู้มาใช้บริการค่อนข้างน้อย จึงปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ จากเดิมให้บริการเริ่มต้นจากอาคารธานีนพรัตน์ (กทม.2) – โรงพยาบาลทหารผ่านศึก – สถานี BTS สนามเป้า – โรงพยาบาลทหารผ่านศึก – โรงเรียนรักษาดินแดน – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย – อาคารธานีนพรัตน์ (กทม.2)
ปรับเปลี่ยนเส้นทางเป็น อาคารธานีนพรัตน์ (กทม.2) – โรงพยาบาลทหารผ่านศึก – สถานี BTS สนามเป้า – สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) – โรงพยาบาลทหารผ่านศึก – โรงเรียนรักษาดินแดน (รด.) – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย – กระทรวงแรงงาน – สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) โดยจะเริ่มปรับเปลี่ยนเส้นทางให้บริการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล (ภายในรถมีบริการ) สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หรือ Physical Distancing 1-2 เมตรภายในรถตัวรถบัสและบริเวณจุดจอด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19