“เพอร์เฟค” เผ่นตั้งหลักหนีโควิด หดแผนเปิดใหม่เหลือ 3 โครงการ

ไอ้เสือถอย “เพอร์เฟค” เผ่นตั้งหลักหนีโควิด หดแผนเปิดใหม่เหลือ 3 โครงการจาก 12 โครงการ

นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยคาดว่าจะชะงักไปอีก 2 ปี และจะฟื้นตัวเทียบเท่ากับปี 2562 ภายในปี 2565  ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์มองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม-เมษายน 2563 ไปแล้ว คาดว่าไตรมาส 3/2563 จะเริ่มกลับมาดีขึ้น

ทั้งนี้ ยอดขายของเพอร์เฟคในเดือนมีนาคมลดถึง 80% แต่สามารถกลับมาฟื้นตัวเพิ่มเป็น 120% ในเดือนพฤษภาคม คาดว่าเป็นยอดขายที่อั้นมาจากเดือนมีนาคม และผู้บริโภคมีเวลาว่างมาเยี่ยมชมโครงการจากการ work from home ประกอบกับการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย

ส่งผลให้ยอดขาย 5 เดือนแรก (มกราคม-พฤษภาคม 2563) เฉลี่ยเท่ากับสถานการณ์ปกติ นั่นหมายถึงเป็น zero growth คือไม่ได้ต่ำลง แต่ก็ไม่เติบโต

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการทบทวนแผนธุรกิจจากเดิมวางเป้ายอดขาย 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10,000 ล้านบาท, โครงการร่วมทุน 1,500 ล้านบาท, คอนโดมิเนียมในประเทศ 4,500 ล้านบาท และคอนโดฯ ประเทศญี่ปุ่น 2,000 ล้านบาท

ทว่าหลังสถานการณ์โควิดมีการปรับลดเป้ายอดขายเหลือ 14,500 ล้านบาท มาจากแนวราบ 10,000 ล้านบาทเช่นเดิม โครงการร่วมทุนเหลือ 1,000 ล้านบาท, คอนโดฯ ในประเทศเหลือ 2,500 ล้านบาท และคอนโดฯ ประเทศญี่ปุ่นเหลือ 1,000 ล้านบาท

ส่วนยอดโอนปรับลดจาก 15,400 ล้านบาท เหลือ 13,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากในปีนี้ไม่มีคอนโดฯ สร้างเสร็จจึงไม่สามารถโอนได้

ขณะที่แผนเปิดโครงการใหม่อีก 12 โครงการ มูลค่ารวม 18,560  ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 10 โครงการ มูลค่า 17,110  ล้านบาท และ ทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ มูลค่า 1,450 ล้านบาท

ปีนี้จะเน้นขายโครงการเดิมที่เปิดการขายไปแล้ว ซึ่งมีสต๊อกแนวราบอยู่ 3,000-4,000 ล้านบาท และแนวสูงอีก 7,000 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะระบายแนวสูงได้ 2,000 ล้านบาท

อีกทั้งการเปิดโครงการใหม่ต้องใช้งบ 200-300 ล้านบาท ภาวะนี้อาจจะยังไม่เหมาะที่ลงทุนมากนัก ทำให้มีโครงการใหม่เพียง 3 โครงการ รวมมูลค่า 5,650 ล้านบาท

ได้แก่ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สุขุมวิท 77 มูลค่า 1,750 ล้านบาท กำหนดเปิดตัว 20-21 มิถุนายน 2563, โครงการเลค ฟอเรสต์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ แบ่งเป็น เพอร์เฟค พาร์ค 2,000 ล้านบาท และเพอร์เฟค เพลส 1,900 ล้านบาท วางแผนเปิดตัวไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้  ซึ่งเป็นการเปิดโครงการที่น้อยสุดในรอบ 10 กว่าปี และน้อยกว่าน้ำท่วมใหญ่ปี 2554

ส่วนโครงการที่เหลือของบริษัทอีก 8 โครงการ และโครงการเลค เลเจนท์ ที่ร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ 1 โครงการ ต้องเลื่อนไปเปิดในปี 2564 แทน โดยเฉพาะโครงการเลค เลเจนท์ที่ต้องขุดทะเลสาบกว่า 100 ไร่ ใช้งบประมาณในการลงทุนสูง

นายวงศกรณ์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจัยลบเดิมอย่างสงครามการค้า, มาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ, ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง และความมั่นใจของผู้บริโภค ยังไม่ได้รับการแก้ไข และมาเจอปัจจัยลบใหม่คือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ปีนี้ไม่ดีนัก

โดยเฉพาะสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาทำให้ยอดรีเจ็กต์สูงขึ้น จากเดิม 15-20% เป็น 20-25% โดยลูกค้าบางกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน เป็นต้น ถูกปฏิเสธสินเชื่อหลังแบงก์เข้มงวดในการอนุมัติมากขึ้น อย่างลูกค้านักบินที่ซื้อบ้าน 7-8 ล้านบาท จากเคยกู้ได้ ตอนนี้กลับกู้ไม่ได้แล้ว

ล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดขายบ้านเดี่ยวโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สุขุมวิท 77 ที่มีนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์จากญี่ปุ่น ระบบกรองอากาศ 3 ชั้น ปลอด PM2.5 ได้รับการรับรองจากโรงพยาบาลพญาไท ราคาเริ่ม 28-60 ล้านบาท พร้อมเปิดพรีเซลในวันที่ 20-21 มิถุนายน 2563