
LPN Wisdom ชี้เทรนด์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 มี 3 Mega Trends “สุขภาพ-ดีไซน์สมดุล-เทคโนโลยีดิจิทัล”
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพีนี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LPN Wisdom) บริษัทด้านการวิจัยและที่ปรึกษาในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
ประกอบด้วย 1.การอยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขอนามัย (Wellness) 2.รูปแบบการทำงานที่ต้องการความสมดุลในการใช้ชีวิต (Work-Life Balance) ปรับเปลี่ยนจากการทำงานที่สำนักงาน ไปสู่การทำงานที่บ้าน (Work From Home) หรือการทำงานในที่อื่น ๆ ในแบบ Anytime Anywhere ในขณะที่รูปแบบการทำงาน
และ 3.การใช้ชีวิตในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Virtual Livable Connect) มาตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้มากขึ้นผ่านแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภค จนกลายเป็นวิถีปกติใหม่ (New Normal) ในการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน
ประเด็นแรก สุขอนามัย (Wellness) การออกแบบที่อยู่อาศัยและการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต้องคำนึงถึงเรื่องของสภาพแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย ลดการสัมผัส (Touchless) ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทั้งในพื้นที่โครงการที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ เป็นโจทย์ใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันและในอนาคต
2.ประโยชน์ใช้สอยที่สร้างสมดุลให้กับการใช้ชีวิต (Work-Life Balance) ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยต้องคำนึงถึงการจัดสรรพื้นที่ที่ลงตัวตอบทุกโจทย์ของการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบ หรืออาคารชุดที่มีขนาดเล็ก, ต้องมีการจัดฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีความหลากหลายและสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน (Multi-Function) เพื่อรองรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่บ้านได้
การเว้นระยะห่างในพื้นที่ส่วนกลาง การปรับเปลี่ยนแนวคิดจากสังคมแบ่งปันในรูปแบบของ Co-Working Space มาสู่แนวคิดการใช้พื้นที่ส่วนกลางในรูปแบบของ Co-Separate Space เป็นการใช้พื้นที่ร่วมกันแบบมีระยะห่าง ทำให้การออกแบบการใช้พื้นที่ส่วนกลางในโครงการทั้งแนวราบและอาคารชุดต้องเปลี่ยนแนวคิดในการออกแบบ
3.การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล (Virtual Livable Connect) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ตอบโจทย์กับแนวคิดการใช้ชีวิตวิถีปกติใหม่ภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งหมดนี้ แนวทางการออกแบบที่ตอบโจทย์ Mega Trend จำเป็นต้องนำเอาแนวคิดที่เรียกว่าการออกแบบเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development Design) เป็นแนวคิดของการออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานอาคารอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุ การใช้พลังงานและทรัพยากรของอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกหรือ คาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ในอากาศ รวมถึงเรื่องพลังงาน การใช้ทรัพยากรน้ำและทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัด เพื่อตอบโจทย์การสร้างสุขอนามัยที่ดีในการอยู่อาศัย ทั้งในรูปแบบของ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) เกณฑ์อาคารเขียวของ US Green Building Council และ TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability ) ของสถาบันอาคารเขียวไทย
การออกแบบภายใต้แนวคิดเพื่อความยั่งยืน ต้องอาศัยเทคโนโลยีในการออกแบบที่มีประสิทธิภาพอย่าง BIM-Building Information Modeling ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพในการบริหารการออกแบบและการก่อสร้างโครงการโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม การจัดฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีการอยู่อาศัยเข้าไปใช้ในการออกแบบเพื่อตอบโจทย์กับรูปแบบการใช้ชีวิตที่คำนึงถึงสุขภาพและสภาพแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
แนวโน้มดังกล่าว ทำให้ความต้องการที่ปรึกษาและนักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการออกแบบเพื่อความยั่งยืน มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจของ LPN Wisdom ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านวิจัยและที่ปรึกษาด้านการออกแบบเพื่อความยั่งยืน ในการให้คำปรึกษาและแนะนำด้านการออกแบบให้กับผู้ประกอบการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ปัจจุบัน LPN Wisdom เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบอาคารเขียวภายใต้เกณฑ์ LEED ให้กับโครงการต่างๆ ทั้งในเครือ LPN และบริษัทอื่นๆ เช่น อาคารสำนักงาน PUNN ของบริษัท ดลสิริ จำกัด (ร่วมทุนระหว่างบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด และ LPN) เป็นที่ปรึกษาด้านอาคารเขียวภายใต้เกณฑ์ TREES ให้กับโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี-จตุจักร ของบริษัท LPN และอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานของผู้ประกอบการอื่นๆ
LPN Wisdom ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายบริษัทที่ต้องการปรับใช้ระบบ BIM ในการทำงาน โดยให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การจัดทำ BIM platform, มาตรฐานและคู่มือการใช้ BIM ขององค์กร, การจัดตั้งฝ่าย BIM ไปจนถึงการใช้ BIM เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ตามเป้าหมายของเจ้าของโครงการ
ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ประเทศไทยมีอาคารที่ได้รับ LEED Certification จาก US Green Building Council ทั้งสิ้น 171 อาคาร อยู่ระหว่างการพิจารณา 85 อาคาร มีอาคารที่ได้รับ TREES Certification จากสถาบันอาคารเขียวไทยทั้งสิ้น 63 อาคาร อยู่ระหว่างพิจารณา 55 อาคาร