ศุภาลัยฮึกเหิม จัดอีเวนต์พรีเซลคอนโดใกล้ BTS บางหว้า ตั้งเป้ายอดขาย 80% สวนทางตลาดชะลอตัว
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการสำรวจการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์บิ๊กแบรนด์ 10 รายในช่วงไตรมาส 1/2563 พบว่า มูลค่าการเปิดโครงการใหม่ในภาพรวมทั้งตลาดลดลง -30% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 โดยการเปิดสินค้าแนวราบใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2562 ขณะที่สินค้าแนวสูงมีมูลค่ารวมลดลง -70%
จึงมองว่าตลาดคอนโดฯโดยรวมในปีนี้จะพักฐาน กล่าวคือมีการเปิดตัวน้อยลงสอดคล้องกับแนวโน้มดีมานด์ที่ลดลง คาดว่าการพักฐานดังกล่าวจะยาวไปถึงปี 2564
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- น้ำมันทำอาหารใช้แล้วอย่าทิ้ง บางจากรับซื้อ กก.20 บาท เช็ก 162 จุดรับซื้อ
ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2563 ศุภาลัยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3,620 ล้านบาท ลดลง -42% จากไตรมาสแรกของปีก่อนที่มีรายได้ 6,252 ล้านบาท กำไรสุทธิ 749 ล้านบาท ลดลง -51% แต่ยังเป็นบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรกของบริษัทอสังหาฯ ในตลาดหลักทรัพย์
โดยศุภาลัยวางแผนลงทุนปี 2563 ตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ 30 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 25 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาท และแนวสูง 5 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 26,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 24,000 ล้านบาท
ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทเปิดไปแล้ว 10 โครงการ มูลค่า 9,000 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 9 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท และแนวสูง 1 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท
ครึ่งปีหลังวางแผนเปิดตัวอีก 20 โครงการ 21,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 16 โครงการ 13,000 ล้านบาท และแนวสูง 4 โครงการ 8,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวคอนโดฯ แบรนด์ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ มูลค่า 1,400 ล้านบาท โดยผ่านการประเมินรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตั้งแต่รอบแรก เนื่องจากมีการพัฒนาพื้นที่แวดล้อมที่ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อชุมชน เหลือโครงการแนวสูงอีก 3 โครงการที่ยังต้องรอประเมินสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะกลับมาระบาดรอบสองหรือไม่ แม้แนวโน้มช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ตลาดคอนโดฯจะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่หากสถานการณ์ตลาดไม่เหมาะสมก็อาจเลื่อนการเปิดตัวโครงการแนวสูงที่เหลือออกไป
“ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนที่เป็นช่วงพีกของมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ ยอดเยี่ยมชมคอนโดฯ ตกลงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มกลับมาเป็นปกติในช่วงปลายเดือนเมษายน ต่างจากยอดวิสิตไซต์โครงการแนวราบที่ลดลงเล็กน้อย และกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปลายเมษายน ขณะที่สิ้นเดือนพฤษภาคมยอดวิสิตไซต์เพิ่มขึ้นจากช่วงล็อกดาวน์เกือบเท่าตัว คาดว่าเกิดจากการอั้นของดีมานด์ และผู้บริโภคสนใจสินค้าแนวราบมากขึ้น”
ทั้งนี้ ยังเชื่อว่าความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคเป็นการตื่นตระหนกชั่วคราว คล้ายเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ที่สินค้าแนวสูงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก่อนตลาดจะกลับมาเป็นปกติในปีถัดมา
สำหรับรายละเอียดศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ มีมูลค่า 1,400 ล้านบาท ออกแบบเป็นคอนโดฯไฮไรส์ 33 ชั้น จำนวน 563 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต ก่อสร้างบนพื้นที่ 3 ไร่เศษ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 29-103 ตารางเมตร เพดานสูง 2.7 เมตร ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท หรือ 53,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 60,500 บาทต่อตารางเมตร
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ศุภาลัยเปิดออนไลน์บุ๊กกิ้งในชั้น 8 และ 16 จำนวน 41 ยูนิต สามารถขายได้หมดในเวลา 2 ชั่วโมง มูลค่าขาย 114.5 ล้านบาท บริษัทเตรียมจัดอีเวนต์เปิดพรีเซลวันที่ 11-12 กรกฎาคม 2563 เดิมตั้งเป้ายอดขาย 40% หลังเปิดตัว 1 เดือน แต่ผลตอบรับที่ดีจากยอดบุ๊กกิ้งออนไลน์จึงปรับเพิ่มเป้ายอดขายเป็น 70-80% หรือ 980-1,120 ล้านบาท
นายไตรเตชะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ต้นปี 2563 ที่ผ่านมาดีเวลอปเปอร์แต่ละรายชะลอการซื้อที่ดิน แต่ศุภาลัยได้ลงทุนซื้อที่ดินไปแล้วเกือบ 10 แปลง เน้นซื้อที่ดินเปล่าเป็นหลักเนื่องจากบริษัทต้องการการออกแบบโครงการเองทั้งหมด ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์รองรับการพัฒนาในอนาคตได้ถึง 3 ปีครึ่ง เบื้องต้นแลนด์แบงก์ส่วนใหญ่วางแผนพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก
