รถไฟฟ้าทุกสายเพิ่มขบวนรถ-เลิกเว้นระยะห่างรับเปิดเทอม-ปลดล็อกเฟส 5

หลังมีการ ผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และเห็นชอบการขอยกเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ตามที่กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางราง ได้นำเสนอเพื่อผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างภายในขบวนรถของระบบขนส่งทางรางภายใน กทม. และปริมณฑล เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเมื่อสถานศึกษาทำการเปิดภาคเรียนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2563

สีน้ำเงินเพิ่มรถ 9 ขบวน-สีม่วงเก็บ 20 บาท

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) เตรียมความพร้อมในมาตรการรองรับการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ในช่วงเปิดภาคเรียน

โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและ จะทำการอนุญาตให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้ สำหรับการยืนจะกำหนดจุดยืนเว้นระยะและหันหน้าตามทิศทางที่แนะนำในขบวนรถ โดยจะควบคุมความหนาแน่นในขบวนรถไม่เกิน 70% ซึ่งปัจจุบันผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ได้กลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้นเฉลี่ย 250,000 คนต่อวัน

เมื่อผู้โดยสารเข้าสู่ในขบวนรถไฟฟ้าแล้ว ขอความร่วมมือสแกน QR CODE ไทยชนะที่ติดอยู่ในตู้โดยสาร ผู้โดยสารต้องสวมใส่หน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัย ตลอดเวลาที่เข้าใช้บริการรถไฟฟ้า และงดเว้นการพูดคุยภายในขบวนรถ

นอกจากนี้ได้จัดขบวนรถเสริมในระบบสายสีน้ำเงิน ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็นในระบบอีก 9 ขบวน จากปกติจะมีขบวนรถให้บริการ 40 ขบวน

และวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 รฟม. ได้ขยายระยะเวลาโปรโมชั่นลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน และสำหรับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อ 2 สาย ระหว่างสายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน จะจ่ายค่าโดยสารร่วมสูงสุดเพียง 48 บาท

บีทีเอสห้ามคุยโทรศัพท์

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมด้านการให้บริการช่วงเปิดเทอม คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการบีทีเอสเพิ่มมากขึ้น

และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร จะขอยกเลิก การเว้นที่นั่ง และที่ยืนในขบวนรถเพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารช่วงเปิดเทอมที่เพิ่มสูงขึ้น

ควบคุมความหนาแน่นของผู้โดยสารที่จะเข้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ชั้นชานชาลา และภายในขบวนรถไฟฟ้า ไม่เกิน70 % พร้อมทั้งจำกัดจำนวนผู้โดยสารเข้าใช้บริการเป็นกลุ่ม ในชั่วโมงเร่งด่วนเช้า และเย็น

เน้นย้ำให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัย / หน้ากากผ้าทุกครั้ง งดการพูดคุยภายในขบวนรถและงดคุยโทรศัพท์ในขบวนรถไฟฟ้า 100 % พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการหันหน้าเข้าหากัน

คัดกรองอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ จัดจุดบริการแอลกอฮอล์ ทุกทางเข้า-ออกสถานี เพิ่มความถี่ในการฉีดพ่น เช็ดทำความสะอาด ภายในขบวนรถ สถานี และรอบสถานีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่านลงทะเบียน “ไทยชนะ” เมื่อเข้า และออกจากขบวนรถไฟฟ้าขบวนนั้นๆ

แอร์พอร์ตลิงก์เสริม 24 เที่ยว/วัน

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าจะผ่อนปรนมาตรการการเว้นระยะห่างบนรถไฟฟ้า โดยกำหนดเพิ่มความหนาแน่นจากเดิมได้ไม่เกิน50 %เป็น 70 % กำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกันภายในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ แต่ยังคงเน้นย้ำมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่างเคร่งครัด เช่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าใช้บริการ และขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing เว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ

งดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร และหากในกรณีมีผู้โดยสารหนาแน่น จะดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลาและภายในขบวนรถไฟฟ้า เป็นต้น

ทั้งนี้ในช่วงเปิดภาคเรียนคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 34,000 คน/วัน เป็น 40,000 คน/วัน ได้เตรียมขบวนรถเสริม ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – ศุกร์ จำนวน 24 เที่ยว/วัน