รถไฟวิ่งวันละ 224 ขบวน หยุดยาว “อาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา”

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ได้จัดแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลวันหยุดยาววันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 3 – 8 กรกฎาคม 253 โดยได้เตรียมเพิ่มตู้โดยสารให้เพียงพอในแต่ละเส้นทางที่ให้บริการในปัจจุบัน ทั้งหมด 224 ขบวนต่อวัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก และไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามสถานี

โดยประเมินว่าในช่วงเทศกาลหยุดยาว 4 วัน จะมีผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวมากกว่าปกติ หลังจากมาตรการผ่อนคลายของรัฐบาล จึงได้มีการเตรียมพร้อมในการพ่วงตู้โดยสารในทุกเส้นทางให้สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ

โดยประมาณการผู้โดยสารที่เดินทางในวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ คือวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 จำนวนผู้โดยสารขาเข้าและออกประมาณ 55,000 คน นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพนักงานบริการ ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยบนขบวนรถและในสถานี เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ พนักงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ประจำตามสถานีที่มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยระหว่างการเดินทางแก่ผู้โดยสาร และให้มีการตรวจตราห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติดบนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟอย่างเคร่งครัด รวมถึงมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การตรวจหาสารเสพติดให้กับพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่

เพราะยังคงให้ความสำคัญในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด – 19) ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือยาง และ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่ง ให้ชัดเจน


ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้ง แอปพลิเคชั่น (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชั่นดังกล่าว