AP โชว์แบ็กลอก 5.6 หมื่นล้าน  ปั้นแบรนด์ใหม่ “อภิทาวน์” บุก 5 จังหวัด

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนลงทุนปี 2563 ปรับเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด 40 โครงการ รวม 41,500 ล้านบาท มูลค่าลดลงจากเดิมเตรียมลงทุนโครงการแนวราบ 33 โครงการ 35,050 ล้านบาท และคอนโดฯ 4 โครงการ 12,100 ล้านบาท มูลค่ารวม 47,150 ล้านบาท ส่วนเป้าพรีเซล 33,500 ล้านบาท และเป้ารายได้ 40,550 ล้านบาท ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน

ทั้งนี้ การเลื่อนโครงการคอนโดฯ 4 โครงการที่จะเปิดในปีนี้ ผ่านความเห็นชอบจากพันธมิตรอย่างมิตซูบิชิแล้ว แต่หากสถานการณ์เหมาะสมกับการเปิดโครงการคอนโดฯ บริษัทจะพิจารณา เพราะมีแลนด์แบงก์เตรียมพัฒนาในส่วนนี้พร้อมอยู่แล้ว

ผลดำเนินการครึ่งปีแรก 2563 เปิดทั้งหมด 14 โครงการแนวราบ 15,500 ล้านบาท ยอดขาย 15,085 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของเป้ายอดขายทั้งปี ลดลง -27% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมียอดขายรวม 20,800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบ 12,800 ล้านบาท และคอนโดฯ 2,270 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายอดขายรวมครึ่งปีแรกน้อยลง เนื่องจากปีนี้ไม่การเปิดโครงการคอนโดฯใหม่ แต่มองว่าดีมานด์สินค้าคอนโดฯยังมีอย่างต่อเนื่อง เพราะครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยังมียอดขายและยอดโอนจากโครงการเก่าอยู่ หลังเอพีกระตุ้นการซื้อด้วยโปรโมชันและเทคโนโลยีช่วยขาย VTour

ยอดโอนกรรมสิทธิ์ 1/63 มูลค่า 6,820 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/63 ยังไม่ได้สรุปแน่ชัด แต่มั่นใจว่าจะเป็นไตรมาสที่มียอดโอนดีที่สุดในประวัติศาสตร์ มากกว่าสถิติยอดโอนสูงสุดในไตรมาส 4/59 ซึ่งอยู่ที่ 11,500 ล้านบาท

ล่าสุด บริษัทมีแบ็กลอก 56,149 ล้านบาท สัดส่วนเป็นแนวราบ 24% มูลค่า 13,234 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ และคอนโดฯ 76% มูลค่า 42,915 ล้านบาท คาดว่ารับรู้รายได้ในปีนี้ 15,600 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2566

โดยปีนี้จะคอนโดฯที่สร้างเสร็จพร้อมโอน 4 โครงการ รวม 22,300 ล้านบาท ได้แก่ ไลฟ์ ลาดพร้าว ไลฟ์ อโศก-พระราม 9 แอสปาย สุขุมวิท-อ่อนนุช และแอสปาย อโศก-รัชดา

ขณะนี้บริษัทกระแสเงินสดแล้ว 3,000 กว่าล้านบาท จึงยังมั่นใจว่าแคชโฟลวของบริษัทยังแข็งแรง หากยอดโอนในครึ่งปีหลังยังไปได้ดี คาดว่าปีนี้บริษัทไม่น่ามีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด อีกทั้ง ปีนี้โครงการแนวราบ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รายได้เร็วกว่าคอนโดฯ เพราะสร้างไปขายไป

ด้านกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง 2563 ชูสินค้าแนวราบเป็นพระเอก โดยเตรียมเปิดอีก 26 โครงการ รวม 26,000 ล้านบาท ลงทุนในกรุงเทพฯ 21 โครงการ 21,300 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ 7,970 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 13 โครงการ 13,330 ล้านบาท

ส่วนโครงการต่างจังหวัดอีก 5 โครงการ 4,700 ล้านบาท จะพัฒนามิกซ์โปรดักต์บ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ในแบรนด์อภิทาวน์ 5 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช เชียงราย ขอนแก่น อยุธยา และระยอง มูลค่าโครงการละเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยเตรียมเปิดที่นครศรีธรรมราชเป็นโครงการแรกเดือนกันยายน จำนวน 215 ยูนิต ระดับราคา 1.9-5.5 ล้านบาท ส่วนอีก 4 โครงการจะเปิดในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม การเปิดโครงการในจังหวัดระยอง ยังต้องประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย