“สนามบินสุวรรณภูมิ” เริ่มคึกทั้งขาเข้า-ขาออกรับปลดล็อกเฟส 5

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 6/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (คลายล็อกกิจกรรมระยะที่ 5) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2563 ทำให้เริ่มมีผู้โดยสารมาใช้บริการเดินทางภายในประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีจำนวนเพิ่มขึ้น

โดยในระหว่างวันที่ 1 – 15 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินจำนวนทั้งสิ้น 3,205 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 214 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้าจำนวน 1,604 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออกจำนวน 1,601 เที่ยวบิน สำหรับในส่วนของผู้โดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 174,912 คน เฉลี่ยวันละ 11,661 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 85,758 คน และผู้โดยสารขาออกจำนวน 89,154 คน

เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการในด้านมาตรฐานความปลอดภัยและด้านสาธารณสุข ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและด้านสาธารณสุข โดยถือปฏิบัติตามวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่ (New Normal)

เมื่ออยู่ภายในอาคารผู้โดยสารและพื้นที่ท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด – 19 พร้อมเน้นย้ำขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารโหลด AOT Airports Application มาก่อนล่วงหน้า เพื่อลดระยะเวลาในการรอกรอกข้อมูลก่อนการเดินทาง

ทั้งนี้ ได้มีการถือปฏิบัติตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2563 เรื่อง แนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินระหว่างประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

โดยได้ดำเนินการปฎิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ
1. การคัดกรองอย่างเข้มงวด ได้มีการตั้งจุด Terminal Screening เพื่อตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายผู้ที่จะผ่านเข้ามาในอาคารผู้โดยสารทุกคน

2. การปฏิบัติตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในทุกพื้นที่ที่ผู้โดยสารใช้บริการ อาทิ ประตูทางเข้า เคาน์เตอร์เช็คอิน ร้านค้า ร้านอาหาร Holdroom เพื่อลดความแออัด

3. ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในอาคารผู้โดยสารตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างเคร่งครัด

4. จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและ
ให้คำแนะนำผู้โดยสารในการโหลด AOT AIRPORTS Application ก่อนการเดินทางทุกครั้ง

5. การให้ความสำคัญใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด โดยได้มีการเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดทุกพื้นที่ ทุกจุดต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นการใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ สูตรของสถาบันบำราศนราดูร เช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน ราวบันได เก้าอี้พักคอย ถาดใส่สัมภาระ ถาดใส่รองเท้า รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ รวมทั้งมีการจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือให้บริการตามจุดต่างๆ เป็นต้น

เพื่อให้มาตรการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือให้ผู้มาใช้บริการหรือผู้โดยสารปฏิบัติตามวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่อย่างเคร่งครัด โดยขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบเที่ยวบินที่ให้บริการภายในประเทศกับสายการบินโดยตรง