เปิดภารกิจ “ผู้ว่า กทพ.คนใหม่” จัดทัพผู้บริหาร-สางปมประมูลด่วนพระราม 3

วันที่ 3 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศ (กทพ.) ได้ลงนามสัญญาจ้างนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนที่ 15

นายสุรงค์กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ กทพ.ได้ผู้ว่าการฯตัวจริงมาเดินหน้าลงทุนโครงการต่างๆ ในห้วงเวลาที่ต้องการผู้ขับเคลื่อนแผนงานโครงการที่วางไว้ หลังจาก กทพ.เสียเวลาไปกับการตีความเรื่องข้อพิพาททางด่วน

“ผู้ว่าการคนใหม่ จากประวัติเป็นที่ยอมรับ เพราะผ่านงานจากรถไฟฟ้ามาก่อน เป็นทั้งนักบริหาร นักรบ ผลักดันโครงการโลจิสติกส์ของประเทศ จะนำความรู้ต่างๆ นี้มาช่วยพัฒนาโครงการของ กทพ.”

สำหรับภารกิจที่ต้องการให้ผู้ว่าการคนใหม่ คือ เร่งแก้ปัญหาทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ยังติดปัญหาการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติและผลงานของผู้รับเหมาที่ชนะประมูลสัญญา 1 และ 3, เดินหน้าทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ, แก้ปัญหาระบบการจราจรติดหน้าด่านตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ให้บริหารเป็นระบบฟรีโฟลว์ (ไร้ไม่กัน) และเร่งการลงทุนโครงการอยู่ในแผนงาน เช่น ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง, ขยายทางด่วนบูรพาวิถี, ต่อขยายทางด่วนฉลองรัช-นครนายก เป็นต้น

ด้านนายสุรเชษฐ์กล่าวว่า รู้สึกหนักใจที่เข้ามาทำงานในองค์กรแห่งใหม่ แต่ตนเชื่อมั่นในความจริงใจ ความตั้งใจที่จะสามารถทำให้งานเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ก่อนจะมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของ กทพ.มาระดับหนึ่งแล้ว และต่อไปจะพูดคุยกับสหภาพของ กทพ.ต่อไป

“ตั้งเป้าใน 3 เดือนนี้ จะขอศึกษางานต่างๆ และเร่งจัดทัพองค์กรใหม่ เพราะมีผู้บริหารระดับรองผู้ว่าการที่ว่างอยู่ 4 ตำแหน่ง อย่างเป็นที่ทราบกันดีว่า ผมเป็นคนนอกที่เข้ามา จะต้องมีมือมีไม้มาช่วยรันงานให้เดินหน้าไปด้วยกัน”

นายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับงานเร่งด่วนคือแก้ปัญหาความล่าช้าการก่อสร้างทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ที่ยังติดอยู่ 2 สัญญา ได้เตรียมแนวทางแก้ปัญหาเสนอบอร์ดให้พิจารณาแล้ว

รวมถึงหารือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แก้ปัญหาการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือช่วงทดแทน N1 ที่พาดผ่านหน้ามหาวิทยาลัย มี 2 แนวทาง คือ ไม่ทำและเปลี่ยนวิธีการใหม่ จะนำข้อเท็จจริงทั้งหมดไปหารือเพื่อสรุปโครงการ เนื่องจากทางด่วนสายนี้ กทพ.เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2538 ใช้เวลาผลักดันมา 20 ปี จะเป็นส้นทางเชื่อมการเดินทางระหว่างโซนตะว้นออกกับตะวันตก

นอกจากนี้จะเร่งการพัฒนาทางด่วนในพื้นที่ต่างจังหวัด คือ สายกระทู้-ป่าตอง ,ขยายสายบูรพาวิถีและต่อเชื่อมสายฉลองรัช-นครนายก โดยเตรียมจะลงพื้นที่เพื่อดูอุปสรรคปัญหา

ขณะเดียวกันเตรียมช่องทางหารายได้ให้กทพ.เพิ่ม นอกจากรายได้ค่าผ่านทาง เช่น ขยายทางด่วนสายใหม่เพื่อเพิ่มผู้ใช้บริการ ลดรายจ่ายที่ต้นทุนสูงเช่นค่าซ่อมบำรุง เร่งพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ใต้ด่วนที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่าและมีสัญญาแล้วจะปรับให้มีประสิทธิภาพและมีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น