“ศักดิ์สยาม” ลั่นปีนี้คิกออฟแน่ ซิ่ง 120 กม./ชม. ไฟเขียวแกร็บถูกกฎหมาย

แฟ้มภาพ

เข้าสู่ปีที่ 2 ของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้นั่งเก้าอี้ใหญ่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กุมเม็ดเงินงบประมาณปีละกว่า 2 แสนล้านบาท และโครงการใหญ่ในแผนงานที่เข้าคิวรอกดปุ่มอยู่หลายโปรเจ็กต์

จากเม็ดเงินและโครงการทำให้ “คมนาคม” เป็นที่คาดหวังจะนำเงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็ยังไม่เป็นตามเป้าหมาย ด้วยปัจจัยแวดล้อม ยิ่งมีการระบาดของโควิด-19 มาซ้ำเติม ยิ่งทำให้เม็ดเงินที่เตรียมใส่ในโครงการต่าง ๆ ต้องโยกไปช่วยประเทศเยียวยาโควิด

เร่งประมูลสีส้ม-ม่วงใต้ให้จบปีนี้

ขณะที่การขับเคลื่อนการลงทุนของคมนาคมถึงสิ้นปี 2563 “ศักดิ์สยาม” ย้ำว่า จะเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ให้ได้ตามเป้า และประมูลโครงการใหม่นับจากนี้ถึงเดือน ธ.ค. เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) จะได้เอกชนลงทุน PPP ในสิ้นปีนี้ สายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) จัดหารถเมล์ใหม่ของ ขสมก. ด้านรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการลำดับความสำคัญและความคุ้มค่าของโครงการ คาดว่าส.ค.นี้จะเสนอทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง ให้ ครม.อนุมัติ ได้แก่ บ้านไผ่-นครพนม และเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ส่วนรถไฟไทย-จีน ต.ค.นี้จะเซ็นสัญญาก่อสร้าง 9 สัญญา

ทางคู่เฟส 2 ลุยต่อปีหน้า

“โครงการไหนยังผลักดันไม่สำเร็จปีนี้ จะผลักดันต่อในปี 2564 อาจจะช้าบ้าง เพราะเป็นการลงทุนโครงการใหญ่ ใช้เงินมาก ต้องหาช่องทางอื่น เช่น ดึงเอกชนร่วม PPP อย่างสายสีแดงที่กำลังสรุปแนวทางให้เอกชนลงทุนสร้างส่วนต่อขยายใหม่ 4 เส้นทาง วงเงิน 70,000 ล้านบาท รับภาระค่าก่อสร้างเดิม พัฒนาสถานีและรับสัมปทานเดินรถ ยังมีมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ”

นอกจากจะผลักดันนโยบายรูทีน “ศักดิ์สยาม” ยังออกแรงเข็นไอเดียใหม่ และนโยบายพรรคที่โปรโมตตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อกลางปีที่แล้ว

ปีนี้ได้ซิ่ง 120-แกร็บถูกกฎหมาย

ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า แม้จะนำร่องสายสีน้ำเงินและสีม่วง แอร์พอร์ตลิงก์ไปแล้ว ยังคงเดินหน้าเจรจาต่อในส่วนของสายสีเขียว รวมถึงลดค่าผ่านทาง 5-10 บาท ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และโทลล์เวย์ หลังปรับปรุงด่านเก็บเงินเป็นระบบฟรีโฟลว์ หรือไร้ไม้กั้น จะนำร่องวงแหวนรอบนอกตะวันออกปลายปีนี้ เรียกว่า M-flow ก่อนขยายผลไปยังทางด่วน

การกำหนดอัตราความเร็ว 120 กม./ชม. บนถนน 4 ช่องจราจรขึ้นไป ในเดือน พ.ย.นี้นำร่องถนนสายเอเชีย ช่วงอยุธยา-อ่างทอง 45.9 กม. รอประกาศกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะ

ส่วน “แกร็บถูกกฎหมาย” ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ให้แจ้งเกิดได้เร็วขึ้น จะกำหนดในกฎกระทรวงให้เป็นรถยนต์รับจ้างประเภทใหม่ “รถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชั่น” และกำหนดอัตราค่าโดยสารตามขนาดรถ รอเสนอ ครม.อนุมัติในปีนี้ ล่าสุดนโยบายการใช้วัสดุทดแทนที่ผลิตจากยางพารา เป็นแบริเออร์ โดยนำแผ่นยางธรรมชาติครอบกำแพงคอนกรีตและเสาหลักนำทาง ของกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี 2563-2565 วงเงิน 85,623 ล้านบาท

ประเดิมถนนจันทบุรีแห่งแรก

ตามแผนปี 2563 ของ “กรมทางหลวง” จะดำเนินการ 13 จังหวัด 23 สายทาง รวม 150 กม. อาทิ เชียงใหม่ พิจิตร พิษณุโลก หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น บุรีรัมย์ ส่วน “กรมทางหลวงชนบท” มี 15 จังหวัด 16 สายทาง รวม 100 กม. อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สระบุรี ลพบุรี จันทบุรี จะคิกออฟแบริเออร์ยางพารา วันที่ 24 ก.ค.นี้ ที่ จ.จันทบุรี บริเวณ อ.เขาคิชฌกูฎ มี “บิ๊กตู่-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกดปุ่มระหว่างทริป ครม.สัญจรที่ จ.ระยอง วันที่ 24-25 ส.ค.นี้

โปรเจ็กต์นี้ “ศักดิ์สยาม” แจกแจงช่วยเพิ่มดีมานด์และราคายางพาราในประเทศ และเงินจะถึงมือชาวสวนยางโดยตรง ใน 3 ปีจะใช้ยางพารากว่า 1 ล้านตัน เป็นเงิน 30,108 ล้านบาท