ขสมก. ขอกู้เงิน 7,895 ล้านบาท ถมหนี้แสนล้าน

ขสมก.

ครม.อนุมัติ ขสมก. กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 7,895 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 7,895 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งที่ผ่านมา ครม.เคยมีมติอนุมัติให้ ขสมก. กู้เงินรวม 70,502 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ณ วันที่ 30 พ.ย. 2562 ขสมก. มีหนี้สินค้างชำระรวม 122,102 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการที่ ขสมก. เก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุนที่เป็นจริงและไม่สามารถปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นได้ตามสภาวการณ์ปัจจุบัน รายละเอียดหนี้แยกเป็นดังนี้ หนี้พันธบัตรเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 57,673 ล้านบาท หนี้เงินกู้ระยะยาวพร้อมดอกเบี้ย จำนวน 56,318 ล้านบาท หนี้ค่าเชื้อเพลิง 113 ล้านบาท หนี้ค่าเหมาซ่อม 252 ล้านบาท หนี้ภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงาน 1,560 ล้านบาท หนี้กองทุนบำเหน็จพนักงาน 4,362 ล้านบาท และหนี้สินอื่นๆ 1,822 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ประมาณการเงินสดรายรับรายจ่ายของ ขสมก.ประจำปีงบประมาณ 2564 มีดังนี้ ประมาณการรายรับเงินสด 9,579 ล้านบาท ประมาณการรายจ่ายเงินสด 42,665 ล้านบาท ส่งผลให้ติดลบจำนวน 33,085 ล้านบาท ดังนั้น ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 7,895 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงาน และทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอในการให้บริการขนส่งสาธารณะ แยกเป็นนำไปใช้ชำระค่าเชื้อเพลิง 3,219 ล้านบาท ชำระค่าเหมาซ่อม 1,642 ล้านบาท และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 3,033 ล้านบาท

ขณะที่กระทรวงการคลังมีความเห็นว่า ขอให้กระทรวงคมนาคม และ ขสมก. เร่งจัดทำและดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างจริงจัง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมโดยเร็วและไม่เป็นภาระต่อรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำนักงบประมาณให้ความเห็นว่า เห็นควรให้ ขสมก.เร่งรัดดำเนินการเสนอแผนฟื้นฟูกิจการที่ปรับปรุงใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยเฉพาะแนวทางในการเพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย และการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน เพื่อลดภาระของรัฐบาล