ลุ้นบอร์ด รฟม. เคาะ “ตั๋วร่วมข้ามระบบ” ก.ย. เชื่อม BTS รอ พ.ย.นี้

บีทีเอส-หมอชิต-ลาดพร้าว

วันที่ 14 สิงหาคม 2563 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมรับทราบความคืบหน้าและติดตามแนวทาง บริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สรุปดังนี้

1.ความคืบหน้าการจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ. …. ล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ไปร่วมชี้แจงรายละเอียดต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างการปรับร่างระเบียบฯ และจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป

2.ความคืบหน้าการการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ (Interoperable Ticketing System) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการจัดทำคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Order : VO)

ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ
ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ

คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในเดือน ส.ค.นี้ และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. พิจารณาให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ การพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบจะใช้เวลาดำเนินการ 8 เดือน คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ภายในเดือน ก.ย.นี้

สำหรับ BTS ขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างพัฒนาระบบฯ แล้วเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะพัฒนาระบบฯ แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ และทดสอบระบบได้ภายในเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งการทดสอบระบบระหว่างกันจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน

3.การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ ขณะนี้ สนข. อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาวิเคราะห์อัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบที่เหมาะสม คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้ภายในเดือน ก.ย.นี้

4.ความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบตั๋วร่วม

4.1 บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ได้ว่าจ้างพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) รองรับโครงการตั๋วร่วม ซึ่งผู้รับจ้างยังไม่สามารถส่งมอบแผนงานและส่งมอบงานจ้างพัฒนาระบบฯ ได้ตามสัญญา และยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ โดยผู้รับจ้างอ้างว่าประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ รฟฟท. เร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และให้ดำเนินการต่าง ๆ โดยยึดสัญญาเป็นหลัก

4.2 กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ดำเนินการพัฒนาท่าเรือที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 17 ท่า ปัจจุบันมีท่าเรือที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ จำนวน 8 ท่า พร้อมรองรับการดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดมีความพร้อมดำเนินการ จท. พร้อมจะสนับสนุน

ทั้งนี้ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด โดยยึดถือข้อกฎหมายเป็นสำคัญ