นายกสมาคมอสังหา ชี้การชุมนุมกลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” มีโอกาสทำให้เศรษฐกิจดิ่งลงอย่างแรก-ต่างชาติหนีลงทุน
วันที่ 17 สิงหาคม 2563 นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การชุมนุมทางการเมืองน่าจะกระทบการลงทุนของต่างชาติ เพราะไม่สามารถประเมินได้ว่าสถานการณ์จะจบลงเหมือนฮ่องกงหรือไม่ ทั้งยังมีปัจจัยเดิมจากโควิด-19 ทำให้ไทยไม่มีนักท่องเที่ยว ค่าครองชีพขึ้นสูง รัฐบาลเยียวยาประชาชนและเศรษฐกิจไม่ได้ จึงมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะดิ่งลงอย่างแรงและค่าเงินเปลี่ยน นักลงทุนต่างชาติจะไม่มาลงทุนในประเทศที่ค่าเงินผันผวน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่นที่กำลังจะถอนการลงทุนออกจากจีน เพราะส่งสินค้าไปสหรัฐอเมริกาไม่ได้ จึงเล็งย้ายมาลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีไทยเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งและเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับเรื่องปลอดภัยและความน่าลงทุน แต่หากเหตุการณ์ชุมนุมเช่นนี้ นักลงทุนอาจพิจารณาย้ายการลงทุนไปยังเวียดนาม ซึ่งเป็นทางเลือกอันดับสองแทน
“การลงทุนต้องมีการนำเงินย้ายเข้ามาสร้างโรงงานหรือลงทุนในตัวธุรกิจ มันลงแล้วถอนไม่ได้ เลือกแล้วเลือกเลย กระแสน้ำเวลาโมเมนตัมมันไปมันก็โถมไปทางนู้นเลย และมันไม่เลี้ยวกลับมา พวกนักลงทุนที่ไปแล้วคงไม่เลี้ยวกลับมาเพราะลงทุนไปแล้ว ส่วนนักลงทุนใหม่เขาต้องดูว่าเหตุการณ์จะนิ่งนานไหม แต่ถ้าเขาเห็นกระแสน้ำไปทางนู้นแล้วไปได้เขาก็ไปทางนู้นหมด” นายพรนริศ กล่าว
ขณะที่นักลงทุนไทยที่ลงทุนไปแล้วเกิดปัญหาติดขัด จะเสี่ยงเป็นหนี้เสีย เพราะรัฐบาลไม่มีเวลาแก้ไขกับธุรกิจที่เดือดร้อน ธุรกิจที่กำลังจะมีปัญหาก็ตาย รายใหม่ที่สภาพดีอยู่เลิกลงทุนเก็บเงินสด เมื่อการลงทุนนิ่ง ทุกอย่างตายหมด กำลังซื้อไม่มี
ด้านอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารต้องพิจารณาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หากสถานการณ์ในประเทศไม่ดี เศรษฐกิจไม่เดินหน้า ธนาคารทำกำไรได้น้อย อาจไม่ปล่อยสินเชื่อแก่ธุรกิจ รวมถึงรายย่อยที่จะกู้ซื้อที่อยู่อาศัย หากปลายปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น ธุรกิจอสังหาฯ จะแย่กว่าเดิม