ครึ่งปีหลัง เมเจอร์ ลุ้นโอนคอนโดมิวนีค สุขุมวิท 23 หวังทำรายได้เทียบเท่าปี 62

ดร.สุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะหดตัวลง แต่เมเจอร์เน้นตลาดระดับลักเซอรี่ โลเกชันในตัวเมือง กำลังซื้อกลุ่มนี้ยังมีอยู่จึงไม่มีผลกระทบมากนัก เว้นแต่ลูกค้าตัดสินใจนานขึ้น และจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาอาจทำให้นักลงทุนลดลงพอสมควร

ส่วนการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ส่วนตัวมองว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไม่มีความรุนแรง ถึงขั้นปิดสนามบินหรือสถานที่ราชการ จึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดคอนโดฯน่าจะกลับมาภายในกลางปี 2564

กลยุทธ์ในครึ่งปีแรก 2563 บริษัทใช้โปรโมชันเพื่อกระตุ้นการซื้อทำให้ gross margin ลดลงกว่า 10% แต่ครึ่งปีหลังจะไม่เน้นลดราคา แต่มุ่งเพิ่มยอดโอนจากแบ็กลอก 3 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท

หนึ่งในนั้นคือโครงการมิวนีค สุขุมวิท 23 พื้นที่ 1 ไร่กว่า สูง 36 ชั้น จำนวน 201 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท ห้องมี 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 ห้องนอน 34.74-43.46 ตารางเมตร, ห้อง 2 ห้องนอน 54.68-99.27 ตารางเมตร และมินิเพ้นท์เฮ้าส์ 2-3 ห้องนอน 83.22-191.11 ตารางเมตร

ราคาต่อยูนิต 7.9-50 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงพรีเซลปลายปี 2559 ราคา 2 แสนบาทต่อตารางเมตร

ปัจจุบันมีลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์และ 10 ยูนิต และมียอดขาย 70% โดยเป็นผู้ซื้อชาวต่างชาติ 25% ซึ่งจำนวนกว่าครึ่งเป็นชาวฮ่องกง และคาดว่าภายในสิ้นปี 2563 จะทำยอดขายได้ 80-90% ของมูลค่าโครงการ

ส่วนอีก 2 โครงการคือ มารุ เอกมัย 2 มูลค่า 2,300 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 80% และมารุ ลาดพร้าว 15 มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 60% จะเริ่มโอนกลางปี 2564

การลงทุนครึ่งปีหลัง 2563 เมเจอร์เตรียมเปิดโครงการขนาดเล็ก เป็นคอนโดฯไลว์ไรส์อีก 1 โครงการชื่อ ไมล์ รัชดา-ลาดพร้าว มูลค่า 550 ล้านบาท ราคา 80,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร เตรียมเปิดในเดือนกันยายน 2563

ทั้งนี้คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปี 2563 น่าจะไม่ต่างจากปี 2562 ซึ่งมีรายได้ 6,280 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท