ขาดทุนหนัก ครม. อนุมัติรถไฟกู้เงิน 11,500 ล้าน เสริมสภาพคล่อง

รถไฟไทย

ครม. อนุมัติการกู้เงินวงเงิน 11,500 ล้านบาท และวงเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 800 ล้านบาท ให้ ร.ฟ.ท. สภาพคล่องปีงบประมาณ 2564

วันที่ 1 กันายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน วงเงิน 11,500 ล้านบาท และวงเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประจำปีงบประมาณ 2564 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม โดยในส่วนของการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการกู้เงิน ให้ ร.ฟ.ท. พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับเงินกู้จะนำไปดำเนินการบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 11,500 ล้านบาท ให้ร.ฟ.ท.กู้เงินได้ภายหลังจากวงเงินดังกล่าวได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

ส่วนเงินกู้ระยะสั้นเป็นวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี วงเงิน 800 ล้านบาทให้ดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประมูล ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง

สำหรับในรายละเอียดนั้น ทางกระทรวงคมนาคม รายงานว่าร.ฟ.ท. ประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 จะมีเงินสดรับ 46,370.67 ล้านบาท และเงินสดจ่าย 57,970.67 ล้านบาท มีเงินสดยกมาจากปี 2563 จำนวน 100 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดเงินสดไว้ใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2564 จำนวน 11,500 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 11,500 ล้านบาท

เพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนในการใช้จ่ายดำเนินงาน การลงทุน การจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ และการชำระหนี้เงินกู้ โดยร.ฟ.ท.คาดว่าจะเริ่มขาดเงินในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นต้องกู้เงินระยะสั้น เพื่อให้มีวงเงินสำรองไว้ใช้เสริมสภาพคล่องโดยทำสัญญาเงินกู้ระยะสั้น วงเงิน 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ร.ฟ.ท. จะเป็นผู้รับภาระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน และกระทรวงการคลัง ค้ำประกันการกู้เงิน รวมทั้งพิจารณาจัดหาแหล่งเงินกู้ วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม สำหรับการขอยกเว้นการคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราและเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค้ำประกันของกระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551 ร.ฟ.ท. จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 เห็นชอบการกู้เงินดังกล่าวแล้ว
ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)] สศช. และสำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาแล้วเห็นชอบและไม่ขัดข้อง