เปิดฟรี “มอเตอร์เวย์-ทางด่วน” คาด 8.8 ล้านคน เดินทางวันหยุดยาว

“ศักดิ์สยาม” เปิดวิ่งฟรีมอเตอร์เวย์-ทางด่วนมอบ”สนข.”ประสานทุกโหมด อำนวยความสะดวกประชาชนวันหยุดยาว 4-7 ก.ย. คาดคนเดินทางต่างจังหวัด 8.8 ล้านคน

นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้วันที่ 4 ก.ย.และวันที่ 7 ก.ย. 2563 เป็นวันหยุดราชการชดเชยวันสงกรานต์ ประจำปี 2563 ทำให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องรวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 4 – 7 ก.ย.นี้

คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงมอบ สนข. เป็นหน่วยงานหลักเตรียมความพร้อมการดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวดังกล่าว

โดย สนข. วิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลในระบบ TRAMS ณ วันที่ 30 ก.ค. 2563 พบว่า ภาพรวมการอุบัติเหตุบนโครงข่ายถนนวันที่ 24 – 28 ก.ค.2563 มีการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 452 ครั้ง เสียชีวิต 72 ราย บาดเจ็บ 365 ราย โดยการขับรถเร็วเกินกำหนดถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุสูง ถึง74 %
สาเหตุรองลงมาจากตัดหน้ากระชั้นชิดและหลับใน ซึ่งลักษณะของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 3 ลำดับแรก ได้แก่ รถชนท้าย รถพลิกคว่ำ และรถชนกันหรือเฉี่ยวชน ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังพบว่า ถนนทางตรงมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด 71 % เมื่อเทียบกับลักษณะทางประเภทอื่นๆ สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ ชลบุรี 35 ครั้ง กรุงเทพมหานคร 32 ครั้ง และฉะเชิงเทรา 22 ครั้ง

สำหรับอุบัติเหตุในระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ มีรายงานการแจ้งอุบัติเหตุการเดินรถไฟระหว่างเมือง จำนวน 5 ครั้ง เป็นอุบัติเหตุรถไฟชนกับยานพาหนะอื่นบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน จำนวน 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 คน ผู้โดยสารพลัดตกรถไฟ จำนวน 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 คน รถไฟชนกับสัตว์ จำนวน 1 ครั้ง และรถยนต์เสียหลักคร่อมรางรถไฟและกีดขวางการเดินรถ จำนวน 1 ครั้ง

ทั้งนี้คาดการณ์ปริมาณการเดินทางของประชาชนด้วยระบบขนส่งสาธารณะในช่วง 5 วัน ระหว่างวันที่ 3 – 7 ก.ย. 2563 คาดว่าจะมีการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล บนทางหลวงสายหลัก และ Motorway รวม 5,980,000 คัน บนทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) 4,150,000 คัน และเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ รวม280,000 เที่ยว บริการรองรับผู้โดยสาร รวม 8.8 ล้านคน อีกทั้งคาดว่าจะมีผู้เดินทางระหว่างจังหวัดมากขึ้นกว่าช่วงวันหยุดยาวเมื่อวันที่ 25 – 28 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยฯ ในช่วงวันหยุดยาว จะยังคงดำเนินมาตรการต่างๆ ตามแนวทางหลักของช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ประกอบด้วย 2 แผนหลัก ได้แก่ แผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและแผนรองรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง อาทิ การบริการระบบขนส่งสาธารณะต้องเข้าถึงง่าย เพียงพอไม่ล่าช้า ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ไม่โก่งราคา ไม่ทิ้งผู้โดยสาร และทันกับเหตุการณ์

การสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในคุณภาพของการให้บริการขนส่งสาธารณะ ด้วยการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณสถานีโดยสาร ภายในรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสาร และเครื่องบิน อย่างเข้มข้นและจริงจัง กำกับและควบคุม เพื่อป้องกันจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากการเดินทาง บริหารจัดการจราจรทางถนนให้มีความคล่องตัวและไม่ติดขัดอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในขนส่งสาธารณะรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ในช่วงวันหยุดยาวนี้

ทั้งนี้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับและเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

นำสาเหตุของปัญหาการจราจรติดขัดที่เกิดจากปัญหาคอขวด มาวิเคราะห์จัดทำเป็นข้อมูล เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการการจราจรติดขัดในครั้งต่อไป

จัดอุปกรณ์และเครื่องมือให้มีความความพร้อม สำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่ประสบอุบัติเหตุออกจากพื้นผิวจราจรโดยเร็วที่สุด

มอบหมายให้กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดช่องผ่านทาง ณ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางบนถนน Motorway และทางด่วนในทุกช่องทาง เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัดและเร่งระบายรถที่ติดสะสมบริเวณหน้าด่าน พร้อมทั้งมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจน และต้องเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ข่าวสารการยกเว้นค่าผ่านทางให้เข้าถึงประชนชน

มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรถบรรทุกให้งดวิ่งช่วงวันหยุดดังกล่าว และทำการจัดระเบียบการจราจรบริเวณจุดขึ้นเนินต่างๆ โดยรถบรรทุกต้องวิ่งชิดซ้าย

มอบหมายให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย คืนพื้นผิวจราจร และหยุดงานก่อสร้างในจุดต่างๆ เพื่อลดปัญญาการจราจรติดขัดและเร่งระบายรถในจุดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างต่างๆ

มอบหมายให้กรมทางหลวง จัดทำป้ายบอกระยะจุดพักรถล่วงหน้า เพื่อแจ้งให้ประชาชนทราบถึงระยะของจุดพักรถ บริเวณจุดพักรถ Rest Area บนถนน Motorway เพื่อให้รถยนต์ที่ไปใช้บริการสามารถใช้ช่องทางด้านขวาได้และให้ยังคงรักษามาตรการเฝ้าระวัง COVID – 19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน นายชยธรรม์ฯ กล่าวตอนท้ายว่า รัฐบาลได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา) และหมายเลข 9 ถนนสายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค (ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 3 ก.ย.2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 8 ก.ย. 2563 และยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวม 6 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 3 ก.ย. 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 8 ก.ย.2563

รวมทั้งเพิ่มการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด) ในวันที่ 4 ก.ย. 2563 และวันที่ 7 ก.ย.2563 ตั้งแต่เวลา00.01 น. ถึงเวลา 24.00 น.