แสนสิริเปิดหลังบ้าน อวดเบื้องหลัง ส่งมอบ 14 โครงการในปีนี้

โอกะ เฮาส์ (oka HAUS)
ภาพประกอบข่าว : www.sansiri.com

แสนสิริ ย้ำจุดแข็งด้านคุณภาพที่อยู่อาศัย นำนวัตกรรมยกระดับมาตรฐานการพัฒนาโครงการพัฒนา Sansiri Total Project Management Solutions ควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ 3 ปัจจัยเพื่อคุณภาพที่อยู่อาศัย 
 
วันที่ 10 กันยายน 2563 นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริ ให้ความสำคัญกับการส่งมอบที่อยู่อาศัยสู่ลูกค้า พร้อมนำเทคโนโลยีมาเป็นฟันเฟือนสำคัญในการพัฒนาโครงการ

โดยตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้งานก่อสร้างสำเร็จตามกำหนด 100% โดยเตรียมพร้อมส่งมอบ 14 โครงการคุณภาพ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ภายในสิ้นปีนี้ รวมมูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท

ล่าสุดเตรียมส่งมอบ 2 โครงการคอนโดฯ ในเดือนกันยายนนี้ ได้แก่ โอกะ เฮาส์ (oka HAUS) และ เอ็กซ์ที เอกมัย (XT EKKAMAI) พัฒนา Sansiri Total Project Management Solutions ต่อยอดการใช้งานจาก Primavera เพื่อยกระดับมาตรฐานการควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ โครงการสำเร็จเป็นไปตามระยะเวลา รวมทั้งต้นทุนที่วางแผนไว้

นายอุทัย กล่าวถึง ภาพรวมความสำเร็จที่ผ่านมา และความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาเสริมแกร่งการทำงาน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีของครอบครัวแสนสิริว่า LIV-24 เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ (Security  Monitoring) และการบริหารโครงการแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Preventive Maintenance)

นายอุทัย อุทัยแสงสุข
นายอุทัย อุทัยแสงสุข

โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ถึงกรกฎาคม 2020 นวัตกรรม LIV-24 สามารถตรวจจับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติภายในโครงการที่ดูแลทั้งหมด 38 โครงการ ด้วย CCTV และเข้าแก้ไขได้ทันทวงที 942 ครั้ง และแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันของระบบต่าง ๆ ในอาคาร ด้วยเทคโนโลยี IoT ก่อนที่จะชำรุด 57 ครั้ง ซึ่งช่วยยับยั้งการสูญเสียค่าซ่อมแซมได้มากกว่า 2 ล้านบาท

และในด้านการพัฒนาโปรดักส์ เราได้เปิดตัว Sansiri Smart Home บ้านสั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา โดยฟังก์ชั่นที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติและครอบครัวคนรุ่นใหม่ ได้แก่ การสั่งการด้วยเสียงเพื่อเปิด-ปิดม่านและ Smart Display เพื่อการสั่งการด้วยเสียงกับระบบสมาร์ทโฮมอื่น ๆ

สำหรับ 4 มิติของเทคโนโลยีในการพัฒนาโครงการ มีดังนี้

มิติที่ 1: นำเทคโนโลยียกระดับมาตรฐานการควบคุม ‘Time-Cost-Quality’ ได้แก่ BIM แพลตฟอร์มสร้างแบบจำลองเสมือนจริงของที่อยู่อาศัยอย่างแม่นยำ, Primavera แพลตฟอร์มควบคุมไทม์ไลน์การพัฒนาโครงการ และ StructionSite แพลตฟอร์ม AI เก็บข้อมูลไซต์ก่อสร้างแบบละเอียด 360 องศา

นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี สิริ เวนเจอร์ส บริษัทในเครือแสนสิริ กล่าวว่า การยกระดับการควบคุมคุณภาพระหว่างงานก่อสร้าง ได้นำ StructionSite สตาร์ทอัพ ด้าน ConsTech (Construction Tech) มาช่วยวิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้ง และนำร่องใช้งานแล้วที่ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์คและเดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ

มิติที่ 2 : ดูแลลูกค้า ผ่าน Salesforce แพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และ Sansiri Home Service Application กับ 4 ฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ Community Hub พื้นที่สำหรับการสื่อสารโดยการตั้งกระทู้และแชร์กิจกรรมของลูกบ้าน, Market Place พื้นที่ซื้อ-ขายสินค้าของลูกบ้านและฟังก์ชั่น การจอง-จ่ายสถานี EV Charger ของ SHARGE กว่า 200 จุด รวมทั้งการจองเข้าใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง นำร่องที่ เอ็กซ์ที เอกมัย

มิติที่ 3: เยี่ยมชมโครงการและห้องตัวอย่างเสมือนจริง กับ Nodalview โซลูชั่นสร้าง Virtual Sales Gallery ผ่านสมาร์ทโฟน

มิติที่ 4: เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านการจัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้าที่มีความโปร่งใส รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) จาก Digital Ventures