“ประยุทธ์” มอบ “บ้านใหม่” ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ลั่นไม่ทิ้งผู้มีรายได้น้อย

บ้าน

“ประยุทธ์” คิกออฟ “บ้านใหม่บึงบางซื่อ” สั่งลุย “คลองลาดพร้าว-แสนแสบ-เปรมประชากร” ต่อ “อัศวิน” เด้งรับพร้อมลุย “ลาดพร้าว-แสนแสบ” ต่อ ขอสำรวจความเป็นไปได้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ก.ย. 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบ “บ้านใหม่” ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ตามโครงการสานพลังประชารัฐ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการนี้ใช้เวลาดำเนินการถึง 4 ปี (2559-2563) และเป็นโครงการที่เคยมาเยี่ยมชมแล้วเมื่อปี 2561 ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่งานนี้เสร็จลุล่วง ยืนยันได้ว่าตั้งแต่ที่ผ่านมาหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยทิ้งภาระเหล่านี้ โดยเฉพาะปัญหาผู้มีรายได้น้อยจะต้องได้รับการดูแลมากกว่ากลุ่มอื่นนิดหนึ่ง

ดังนั้น รัฐบาลไล่ตั้งแต่สมัยคสช.ถึงตอนนี้ก็พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างยิ่งยวด ที่ผ่านมาก็แก้ปัญหาก่อสร้างอาคารแฟลตดินแดงใหม่ได้ โดยที่ผ่านมาหลายๆปีไม่เคยแก้ปัญหานี้ได้เลย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะกรุงเทพฯแต่จะขยายไปในที่ต่างจังหวัดด้วยในอนาคต นอกจากประชาชนแล้ว ต้องคำนึงถึงข้าราชการชั้นผู้น้อยด้วย จะทำยังไงให้มีบ้านอยู่อาศัย ซึ่งก็ต้องไปคิดมา

“ในคลิปวิดีโอเปิดตัวโครงการชาวบ้านบอกว่า เขาให้เราทั้งๆที่เรามีรายได้เป็นศูนย์ ผมอยากจะบอกว่า พวกคุณมีคุณค่าความเป็นมนุษย์ รัฐบาลต้องดูแล ดังนั้น รัฐบาลไม่ได้ดูแลเฉพาะคนรวย ต้องดูทุกฝ่ายทุกเหล่า มากบ้างน้อยบ้าง ก็ใช้เวลากันไป ผมคิดว่าได้วางฐานรากไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกคน” พลเอกประยุทธ์กล่าว

ประยุทธ์ มอบบ้าน

สั่งลุยต่อ 3 คลอง

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบคลองอื่นในกรุงเทพฯว่ามี คลองไหนที่พร้อมพัฒนาบ้าง ก็ให้ไปดูคลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ และคลองเปรมประชากร และคลองอื่นๆที่เหมาะสม เพราะกรุงเทพฯมีคลองเกือบ 200 คลอง ก็ค่อยๆทำไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสำเร็จอย่างรวดเร็วได้ก็ด้วยปัจจัย 2 ประการ 1) รายได้งบประมาณ และ2) ความร่วมมือร่วมใจไม่ขัดแย้งกัน

รับบัญชาลุยคลองลาดพร้าว-แสนแสบ

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวกับ”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า จากนโยบายที่พลเอกประยุทธ์ต้องการให้มีการกระจายโมเดลพัฒนาไปยังคลองอื่นๆนั้น กทม.ได้ริเริ่มดำเนินการแล้ว โดยคลองลาดพร้าวบางส่วน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ริเริ่มโครงการ”บ้านประชารัฐริมคลอง”มอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) รับไปดำเนินงานต่อ ซึ่งริเริ่มมาก่อนบึงบางซื่อ แต่ยังติดปัญหาการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเดิมบางส่วน ซึ่งกำลังทยอยทำ

“ส่วนคลองแสนแสบ จะต้องมีการแบ่งแนวเส้นทางคลองก่อน เพราะคลองแสนแสบมีความยาวประมาณ 72 กม. จุดเริ่มต้นของคลองอยู่ที่บริเวณท่าเรือผ่านฟ้ายาวไปสิ้นสุดที่เขตพื้นที่อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีระยะทางอยู่ในเขตกทม. 45.5 กม. ส่วนระยะทางที่เหลือจะอยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน”

ประยุทธ์

ดังนั้น ทั้ง 45.5 กม. จะต้องทยอยสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาก่อน เพราะในช่วงระยะทางดังกล่าว จะมีคลองสาขาแยกย่อยที่ปล่อยน้ำลงคลองแสนแสบประมาณ 101 คลอง กทม.จะต้องหาทางแก้ปัญหาการปล่อยน้ำเสียในคลองสาขาก่อน โดยจะดำเนินการเป็นเฟสๆไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในแถบบึงบางซื่อ เป็นโครงการภายใต้นโยบายสานพลังประชารัฐ มีบมจ.ปูนซีเมนต์ไทย (SCG) เป็นเจ้าภาพหลัก เป็นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ลักลอบเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเคยเป็นแหล่งวัตถุดิบผลิตปูนซีเมนต์ของ SCG มาก่อน โดยพื้นที่ที่มีการบุกรุกอยู่อาศัยคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ 250 ครัวเรือน ประชากรประมาณ 1,500 คน

โดย SCG ได้ลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัย คิดเป็นวงเงินรวม 120 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 60 หลัง, บ้านผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังและไม่มีรายได้ 4 ยูนิต และอาคารชุด 4 ชั้น 3 อาคาร รวม 133 ยูนิต ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2564

เปิดรูปแบบโครงการ

ด้านนายยุทธนา เจียรตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ด้านการบริหารกลาง SCG กล่าวว่า  รูปแบบของโครงการมีทั้งหมด แบ่งเป็น 1. ทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น พื้นที่ 48 ตร.ม.จำนวน 105 ยูนิต ยูนิตละ 500,000-600,000 บาท โดยสมาชิกในชุมชนจะออกค่าใช้จ่าย 60% และตัวโครงการจะข่วยเหลือ 40%

2.คอนโด จำนวน 133 ยูนิต แบ่งได้ 2 แบบ แบบ A 31.5 ตร.ม. และแบบ B 38 ตร.ม. ค่าใช้จ่ายยูนิตละ 400,000-500,000 บาท โดยสมาชิกในชุมชนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 50% และตัวโครงการช่วยเหลืออีก 50% และ 3. ห้องเดี่ยวสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ 4 ยูนิต ขนาด 20 ตร.ม. โดยสหกรณ์ของชุมชนจะช่วยกันดูแลทั้ง 4 ห้องนี้ทั้งเรื่องอาหารการกินและการพาไปพบแพทย์ โดยปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยแล้ว 90%

บ้าน

บึงบางซื่อ

ทั้งนี้ ในชุมชนจะมีการจัดตั้งสหกรณ์ชุมชนขึ้นมาโดยจะบังคับให้สมาชิกในชุมชนต้องเข้าร่วมสหกรณ์ดังกล่าวและออมเงินก่อน จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกให้อยู่อาศัยได้ เราจะต้องออมเงินให้ได้ 30 % ของมูลค่าที่อยู่อาศัยที่ต้องการ

โดยสหกรณ์จะรวบรวมเงินออมทั้งหมดไปที่ พอช. เพื่อดำเนินการผ่อนชำระกับ พอช.เป็นระยะเวลา 15 ปี โดยการผ่อนชำระเริ่มต้นตั้งแต่ 500-3,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่ง พอช. จะเป็นผู้ประเมินคุณสมบัติเอง


ประยุทธ์ มอบบ้าน