“ศักดิ์สยาม” เค้นผลงานคมนาคมสนองรัฐบาล เร่งปรับแผนรับงบปี’64 ล่าช้า

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ

“ศักดิ์สยาม” โค้ชชิ่ง “คมนาคม” เค้นผลงาน เร่งแผนรับงบปี 64 กระทุ้งเบิกจ่ายงบปี 63 ย้ำหมุดมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง “แผน ศบศ.-พ.ร.ฎ.เวนคืน จ.นครศรีฯ” จี้รถไฟ-กรมรางลุยแลนด์บริดจ์-โปรเจ็กต์ไฮสปีดไทยจีน-สายสีแดง สั่ง “ทางหลวง-การทาง” ศึกษาเว้นค่าผ่านทาง รับหยุดยาว พ.ย.-ธ.ค.นี้ ปลื้มนายกฯชมเปาะผลงาน 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมหัวหน้าหน่วยงานทุกส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงคมนาคมร่วมกันประชุมหารือถึงข้อสั่งการและสรุปมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

เร่งทำแผนรับงบ 64 – เร่งรัดเบิกจ่ายงบ 63

นายศักดิ์สยามเริ่มต้นในประเด็นความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยกระทรวงคมนาคมได้รับการจัดสรร 231,924 ล้านบาท ภายหลังจากที่ประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว ขั้นตอนหลังจากจะส่งร่าง พ.ร.บ.งบปี 2564 กลับมาที่ ครม.เพื่อทูลเกล้าฯต่อไป คาดว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 จะมีผลล่าช้าจากกำหนดเดิมประมาณ 1 เดือน

“มอบหมายให้หน่วยงานทั้งหมดตรวจสอบแผนงานและโครงการที่ได้รับการอนุมัติตาม พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปี 2564 ว่ามีอะไรบ้างและมีความพร้อมของการเตรียมเอกสารประกวดราคา (TOR) และให้ทำ Action Plan ด้วย และอย่าให้มีปัญหาเรื่องการปรับแก้และหารือกับสำนักงบประมาณอีก”

นอกจากนี้ให้ตรวจสอบการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ที่กำลังจะหมดลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้ด้วยว่า แต่ละหน่วยมีการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นอย่างไรบ้างแล้ว โดยเฉพาะการผูกพันงบประมาณข้ามปีและการใช้เงินจากงบกลาง

ครม.ทราบแผนลงทุน ศบศ. 24 โครงการ

นอกจากนี้ นายศักดิ์สยามยังรายงานเรื่องที่ ครม.ได้รับทราบตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มีนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร เป็นประธานเสนอโครงการบริหารเศรษฐกิจระยะปานกลางและระยะยาว ซึ่งมีโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมอยู่ในแผนด้วย 24 โครงการ ซึ่งจะรวมไปถึงโครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้และสะพานเชื่อมภาคตะวันออกและภาคใต้ด้วย

สั่งเตรียมข้อมูลทางคู่ชุมพร-ระนอง

หลังจากสำนักงบประมาณอนุมัติงบกลางเพื่อศึกษาความเป็นไปได้โครงการพัฒนาแนวรถไฟสายใหม่ รถไฟทางคู่ ชุมพร-ระนอง ระยะทาง 109 กม. วงเงินศึกษา 68 ล้านบาท โดยกำชับให้นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประสานงานกับปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือถึงข้อมูลและรายละเอียดการปฏิบัติให้ชัดเจน เพื่อให้เสนอ ครม.รับทราบในการประชุมวันที่ 29 ก.ย.นี้

“ด้านหนึ่งให้กรมทางหลวง (ทล.) ศึกษาเส้นทางมอเตอร์เวย์ในแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ดังกล่าวคู่ขนานไปด้วย โดยให้ใช้งบจากกองทุนมอเตอร์เวย์ และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ให้กลับไปทำผังคร่าวๆ ว่าแนวสำรวจดังกล่าวมีลักษณะอย่างไร ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเส้นทางนี้มีความจำเป็น”

เร่ง “ไฮสปีดไทยจีน-รถไฟฟ้าสายสีแดง”

ทั้งนี้เกี่ยวกับเนื้องานด้านการขนส่งทางราง โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนกรุงเทพ-นครราชสีมา ยังไม่ได้มีการเสนอความคืบหน้าให้ที่ประชุม ครม.ทราบ ขอให้น ายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และผู้ว่า ร.ฟ.ท. ประสานงานกับหน่วยอื่นๆ และทำตารางโครงการมา เพื่อรายงานให้นายกฯ รับทราบว่าติดขัดอยู่จุดไหน

ส่วนรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต นายกฯ สอบถามในที่ประชุม ครม.ถึงการทดสอบการเดินรถ โดยประเด็นนี้นายนิรุฒจึงชี้แจงว่า การทดสอบการเดินรถดังกล่าวเป็นการทดสอบฟังก์ชั่นการทำงาน (Dynamic Test) เท่านั้น ยังไม่ได้เปิดเดินรถเสมือนจริง โดยการทดสอบใช้ความเร็วที่ 120 กม./ชม.

โดยนายศักดิ์สยามให้แก้ไขเรื่องการประชาสัมพันธ์ เพราะประชาชนอาจสับสนได้ เพราะคิดว่ารถไฟชานเมืองสายสีแดงเปิดให้บริการแล้ว และให้เร่งรัดกระบวนการศึกษาต่างๆ เพราะเวลาเหลืออีกไม่กี่เดือน

แผนฟื้นฟู ขสมก. พร้อมเสนอ ครม.

ช่วงหนึ่ง นายศักดิ์สยามได้สอบถามกับนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ถึงความพร้อมในการเสนอให้ ครม.พิจารณาแผนฟื้นฟู ขสมก. ว่าจะพร้อมเสนอ ครม.ในวันที่ 29 ก.ย.นี้หรือไม่

นายสุระชัยชี้แจงว่า แผนฟื้นฟูของ ขสมก. คณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด ขสมก.) ได้รับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (ฉบับปรับปรุงใหม่) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 14 ก.ย. เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว

ในขณะเดียวกันก็ได้สอบถามกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้วได้ความว่า แผนฟื้นฟูดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเสนอให้คณะกรรมการ (คนร.) พิจารณาอีก สามารถให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้ทันที

ส่วนการส่งรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ให้หน่วยงานอื่นๆรับทราบนั้น ได้ส่งไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. แล้ว แต่ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับ นายศักดิ์สยามจึงให้เร่งติดตามรวบรวมหนังสือตอบกลับจากทุกหน่วยให้เร็วที่สุด เพื่อรายงานนายกฯรับทราบต่อไป

ปลื้มนายกฯชมผลงาน

จากนั้น นายศักดิ์สยามได้แจ้งว่า ในที่ประชุม ครม.ได้รับทราบผลงานด้านการขนส่งและรางจากกระทรวงคมนาคมในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว

โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชมเชยกระทรวงคมนาคมว่า ถือเป็นหน่วยงานเดียวที่มีการทำสื่อนำเสนอ (Presentation) มาเผยแพร่ในที่ประชุม ครม. และนายกรัฐมนตรีจะนำสื่อดังกล่าวไปนำเสนอในเว็บไซด์ไทยคู่ฟ้าของทำเนียบรัฐบาลต่อไป แต่นายกฯ แนะนำว่าควรให้มีการเปรียบเทียบผลงานกับในอดีต โดยให้ย้อนหลังไปถึงประมาณปี 2556-2557

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับมายังกระทรวงถึงมาตรการดูแลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัศโควิด-19 โดยเน้นไปที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ ร.ฟ.ท. ให้ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนในเรื่องการสวมใส่หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการ เพราะช่วงนี้เริ่มการ์ดตก ทำให้สุ่มเสี่ยงที่รัฐอาจจะใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้ง

สั่ง “ทางหลวง-การทาง” เช็ก กม.เว้นค่าผ่านทาง

และสืบเนื่องจากการที่ ครม.มีมติให้วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. วันศุกร์ที่ 20 พ.ย. และวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. เป็นวันหยุดเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น ให้ สนข.ทำแผนเพื่อเตรียมรองรับการเดินทางออกต่างจังหวัดของประชาชน และให้กรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ตรวจสอบประเด็นทางกฎหมายในเรื่องการงดเว้นค่าผ่านทางว่าทำได้หรือไม่ได้ เพราะการหยุดดังกล่าวไม่ถือเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์

จี้เตรียมพร้อม พ.ร.ฎ.เวนคืนทำถนนเมืองคอน

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า กำชับให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเตรียมความพร้อม หลังจาก ครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลชะมาย และตำบลปากแพรก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องจากเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4110 กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 403 ต่อไป

อย่าพูดเล่นกับสื่อ

ในช่วงท้าย นายศักดิ์สยามได้ฝากหัวหน้าหน่วยถึงการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การจะให้ข่าวในประเด็นใดควรจะประสานข้อมูลกับกระทรวงคมนาคม เพื่อให้เรื่องราวไปในทางเดียวกัน และอย่าพูดเล่นกับนักข่าวเด็ดขาด เพราะส่วนตัวเคยโดนมาเยอะแล้ว ไม่อยากให้หัวหน้าหน่วยต่างๆ โดนแบบนี้อีก เพราะฉะนั้นช่วยประสานข้อมูลกับกระทรวงก่อนจะให้ข่าว และควรจะเป็นข้อมูลที่ตกผลึกร่วมกันแล้ว

“บางทีท่านให้ข้อมูลไปแล้วคนละเรื่องกันกับกระทรวง และมันจะกลายเป็นว่าเราให้ข้อมูลกลับไปกลับมา ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องระวัง” นายศักดิ์สยามกล่าวในช่วงท้าย