“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” โปรยหมื่นล้านบูม “เมืองพญานาค” ฮับเศรษฐกิจแห่งใหม่

“ภูมิใจไทย” ทุ่ม 1 หมื่นล้าน บูม ”บึงกาฬ” ฮับเศรษฐกิจแห่งใหม่ เนรมิตอาคารโรงพยาบาลหลังใหม่ตัดโครงข่ายคมนาคม ถนน 4 เลน สะพานข้ามโขงแห่งที่ 5 สนามบิน มอเตอร์เวย์ รถไฟ ปั้นแลนด์มาร์คใหม่ 500 ไร่ เชื่อมการค้า ท่องเที่ยว ไทย-ลาว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวระหว่างเปิดคิกออฟโครงการนำการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนนที่ จ.บึงกาฬ ว่าตามภารกิจของคมนาคมมีการพัฒนาจ.บึงกาฬ มีเกี่ยวกับโครงการถนนที่เชื่อมียงระหว่างประเทศและเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่กระทรวงคมนาคมจะสร้างรวมงบประมาณ 9,853 ล้านบาท

ตัดถนน-สะพานข้ามโขงแห่งที่ 5

ปัจจุบันกรมทางหลวงกำลังดำเนินการ คือสร้างถนนสาย 212 อ.โพนพิสัย – บึงกาฬ ตอน ต.หอคำ – บึงกาฬ ระยะทาง 17 กม. วงเงิน 650 ล้านบาท ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2563 ผลงานความคืบหน้า 1.7%

โครงการสร้างถนนเชื่อมระหว่าง อ.พังโคน-บึงกาฬ ตอน อ.ศรีวิไล-บึงกาฬ ระยะทาง 16 กม.วงเงิน 550 ล้านบาท ได้งบประมาณปี 2563 แล้ว อยู่ระหว่างเซ็นสัญญา

“ขณะเดียวกันจะมีโครงการที่จะเชื่อม จ.บึงกาฬ กับประเทศเพื่อนบ้านที่ สปป.ลาว จะก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 เชื่อมแขวงบอลิคำไซ ที่ปากซัน ได้ผู้รับเหมาแล้ว จะสร้างปี 2564 จะเสร็จไม่เกิน 3 ปี หรือในปี 2566 ใช้ เงินก่อสร้าง 2,533 ล้านบาท เมื่อเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางในการเดินทาง ค้าขาย การท่องเที่ยวก้บประเทศเพื่อนบ้าน“

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในปี 2565 มีแผนจะก่อสร้างถนน อ.บุ่งคล้า-อ.บ้านแพง ตอน 1 ระยะทาง 41 กม. วงเงิน 750 ล้านบาท จะเสร็จปี 2568 จะสร้างตอน 2 ระยะทาง 19 กม. วงเงิน 800 ล้าน จะเสร็จปี 2568

ในปี 2566 จะก่อสร้างถนนหนองหิ้ง-เหล่าหลวง ระยะทาง 43 กม. วงเงิน 1,600 ล้านบาท เป็นการขยายช่องจราจร จะเสร็จปี 2568 ก่อสร้างถนนช่วงพังโคน-บึงกาฬ ตอน บ.ท่ากกแดง-บ.บึงสวรรค์ ระยะทาง 36 กม. วงเงิน ​1,650 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างเพิ่มช่องจราจร เสร็จปี 2568

และในปี 2567 ก่อสร้างช่วงห้วยก้านเหลือง-ดงบัง เป็นการขยายช่องจราจรระยะทาง 33 กม. วงเงิน 1,320 ล้านบาท เสร็จปี 2569

ศึกษาผุดรถไฟ-มอเตอร์เวย์-สนามบินบึงกาฬ

และยังมีแผนจะสร้างสนามบินบึงกาฬในพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.เลย กับบึงกาฬ อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการ นอกจากนี้ยังจะศึกษาสร้างมอเตอร์เวย์บึงกาฬ-สุรินทร์ และรถไฟทางคู่อีกด้วยจะเป็นการเชื่อมต่อแนวเหนือ-ใต้ และเป็นเส้นทางตัดกับแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก-ตะวันตก จะเปิดประตูการค้าระหว่างประเทศและเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดยในปี  2564 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะใช้เงินกองทุนศึกษาโครงการ

“โครงการต่างๆ ที่พูดได้เห็นแน่ เพราะปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ (ชยธรรม์ พรหมศร) จะอยู่ทำงานอีก 6 ปี เป็นการการันตีว่าคมนาคมจะพัฒนาเส้นทางการคมนาคมขนส่งให้ประชาชนที่ดีที่สุด”

อนุทินเร่งสร้างโรงพยาบาลหลังใหม่

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่เดินทางมายังจังหวัดบึงกาฬ การพัฒนาโครงการคมนรคมขนส่ง จ.บึงกาฬ นอกจากถนน สะพาน จะต้องมีสนามบิน เพื่อให้เกิดความสะดวก และสนับสนุนการท่องเที่ยวและการลงทุนของจังหวัด ซึ่งปัจจุบันต้องมาลงที่อุดรธานี และเดินทางมาบึงกาฬใช้เวลา 3 ชั่วโมง

“สนามบินจะต้องเกิดขึ้นแน่นอนที่บึงกาฬ เพราะเป็นจังหวัดมีภูมิประเทศสวยงามมากๆ เพราะเป็นพื้นที่มีศักยภาพ มีชายแดนติดแม่น้ำโขง โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวมากมาย บึงกาฬจะเป็นจังหวัดรองไม่ได้อีกต่อไป เพราะพ่อผมตั้งขึ้นมา ต้องเป็นจังหวัดหลัก และการสาธารณสุขก็ต้องดี เพิ่งเซ็นสัญญาก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลแห่งใหม่ไป 400 กว่าล้านบาท ผมให้คำมั่นว่าสิ่งต่างๆ มีรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยได้วางแผนพร้อมทำให้จังหวัดบึงกาฬ ต้องเกิดขึ้นเร็ว เพราะคนอนุมัติชื่ออนุทิน”

เนรมิตแลนด์มาร์ค 500 ไร่

ด้าน นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า บึงกาฬใช้เวลา 9 ปีในการพัฒนาและยกระดับจากอำเภอเป็นจังหวัด และในอนาคตอยากจะให้บึงกาฬเป็นฮับเศรษฐกิจและเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ ซึ่งไฮไลต์ของบึงกาฬเป็นพื้นที่ติดแม่น้ำโขง สามารถพัฒนาเป็นแลนด์มาร์คใหม่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด

“ในแผนจะมีพัฒนาที่ดินริมโขงประมาณ 500 ไร่ ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เนื่องจากต่อไปจะมีสะพานข้ามโขงแห่งที่ 5 และสนามบินที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้ รวมถึงการพัฒนาอื่นๆ ที่จะตามมา“

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาสนามบินบึงกาฬ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.สัญจร) เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. 2561 โดยเห็นชอบให้มีการศึกษาความเหมาะสมของโครงการดังกล่าวขึ้น ปัจจุบันกรมท่าอากาศยานอยู่นะหว่างศึกษาพื้นที่เหมาะสม

ทั้งที่ทางเอกชนในจังหวัดเสนอให้สร้างบริเวณบ้านดอนปอ ต.โนนสว่าง อ.เมือง จ.บึงกาฬ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 4,000 ไร่

ส่วนมอเตอร์เวย์สายบึงกาฬ-สุรินทร์ (M5) กรมทางหลวงได้ศึกษาแผนแม่บทไว้แล้ว เพื่อให้เชื่อมด่านการค้าชายแดน ระหว่างด่านบึงกาฬกับด่านช่องจอม และเชื่อมการเดินทางระหว่างอีสานเหนือและอีสานใต้ ระยะทาง 470 กม. แนวเส้นทางจะเริ่มต้นที่ด่านบึงกาฬ ตัดผ่านพื้นที่ จ.บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มาสิ้นสุดที่ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์